1 | ตื่นเต้นกับการออกกำลังกายแบบ Interval
จริงๆแล้วการออกกำลังกายแบบ Interval เป็นรูปแบบการฝึกซ้อมที่นิยมกันในกลุ่มนักกีฬา และ ผู้ที่ต้องการกระตุ้นการเผาผลาญไขมัน อย่างการวิ่งหนักสลับเบา ที่จะเปลี่ยนวิธีการวิ่งแบบเดิมๆให้สนุกและมีเป้าหมายที่ต้องทำให้สำเร็จ โดยปกติการวิ่งในร่ม ในวันที่ไม่ได้ออกไปวิ่งข้างนอกบ้าน สิ่งที่ทดแทนดีที่สุด คือการวิ่งบนลู่วิ่ง หรือ การคาร์ดิโอในรูปแบบต่างๆ ซึ่งอาจะน่าเบื่อ ไม่แรงจูงใจ เท่ากับการวิ่งข้างนอกบ้าน...
มาดูประโยชน์ของการฝึกแบบ Interval Training มีอะไรบ้าง ?
- ช่วยเผาผลาญแคลอรี่ในเวลาอันสั้น มากกว่าการออกกำลังกายทั่วๆไป
- ทำให้ร่างกายหลั่ง Growth Hormone ช่วยในเรื่องของการเผาผลาญไขมันที่สูงขึ้น
- เสริมสร้างกล้ามเนื้อ สำหรับผู้เริ่มต้นหรือคนที่ออกกำลังกายน้อยๆมาก่อน และยังช่วยทำให้กล้ามเนื้อหัวใจแข็งแรง
- เพิ่มสมรรถนะ ด้วยการพัฒนาให้ค่า VO2MAX สูงขึ้น
ถ้ารู้ประโยชน์ของการฝึกแบบ Interval แล้ว อยากให้ลองนำโปรแกรม Interval สำหรับมือใหม่ ไปปรับใช้เพื่อกระตุ้นให้การออกกำลังกายมีชีวิตชีวายิ่งขึ้น เพียง 3 ขั้นตอนเท่านั้น
- เริ่มการวิ่งวอร์มแบบช้าๆ ประมาณ 5-10 นาที
- แล้วจึงวิ่งเร็ว 30 วินาที สลับกับการวิ่งเบาๆ 10 นาที จนครบ 7-8 รอบ
- คูลดาวน์ด้วยการเดินแบบช้าๆ 5 นาที
เทคนิคแนะนำสำหรับ Interval
- ในขณะวิ่งเร็ว หัวใจควรอยู่ในระดับโซนหัวใจ 4-5 หรือ 80% ของ Heart Rate สูงสุด
- ขณะวิ่งเบาๆ หัวใจควรอยู่ในระดับโซนหัวใจ 2 หรือ 60-70% ของ Heart Rate สูงสุด
- ฝึกซ้อม 1-2 ครั้ง/วัน ต่อสัปดาห์ เพื่อลดโอกาสเสี่ยงการอักเสบของกล้ามเนื้อ
การเช็คระดับโซนหัวใจ สำหรับผู้ที่มีนาฬิกาออกกำลังกายอย่างแบรนด์ Garmin หรือ Suunto เพียงเข้าโหมดติดตามการออกกำลังกาย และ ให้เซนเซอร์ตรวจวัดอัตราการเต้นของหัวใจแสดงผลค่า Heart Rate บนนาฬิกา ซึ่งจะแสดงผลได้ละเอียดกว่าการจับความรู้สึก
2 | จำลองสนามปั่นจักรยาน เหมือนออกไปปั่นขึ้นเขา
สำหรับวิธีนี้เหมาะกับนักปั่นที่ไม่มีเวลาออกไปปั่นข้างนอกบ้าน หรือ ไม่อยากเจอสภาพวะฝุ่นละออง ด้วยการจำลองสนามปั่นมาไว้ที่บ้าน โดยมี 2 รูปแบบให้ได้เลือก
2.1 เพิ่มเทรนเนอร์จักรยาน
โดยหลักการใช้งานเทรนเนอร์จักรยาน จำเป็นต้องมีจักรยานจริงๆ 1 คัน โดยเทรนเนอร์ที่นิยมใช้กันมาก อย่างเช่นแบรนด์ Wahoo ที่จะเข้ามาขับเคลื่อนแทนล้อหลัง ผู้ใช้เพียงถอดล้อหลังออก โดยนำแกนล้อไปยึดกับเทรนเนอร์จักรยานแทน เมื่อขึ้นไปปั่นจริงจะให้ความรู้สึกใกล้เคียงกับการปั่นในสถานการณ์จริง อย่างความหนืดในเวลาปั่นขึ้นเขา จึงทำให้สนุกเพลิดเพลิน และยังสามารถต่อพ่วงเข้าจอแสดงผลเพื่อเลือกใช้โปรแกรมการฝึกซ้อมบนสนามอย่าง Zwift
2.2 ใช้จักรยานรูปแบบสปินไบค์
Spin Bike เป็นรูปแบบการปั่นที่ไม่จำเป็นต้องมีจักรยานจริงๆ แต่ต้องเลือกใช้อุปกรณ์จักรยานที่ปั่นอยู่กับที่ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่นิยมในคลาสฟิตเนสอย่าง คลาส RPM โดยลักษณะของสปินไบค์จะออกแบบให้ใกล้เคียงกับจักรยานจริงๆ ทั้งองศาของท่าทางการปั่น ที่เลือกปรับความหนืดได้ด้วยตนเอง สำหรับวิธีนี้เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากเริ่มต้นออกกำลังกายที่ได้อารมณ์ความสนุกเหมือนออกปั่นจริงๆ และยังสามารถแบ่งปั่นให้คนอื่นๆมาปั่นได้อีกด้วย
3 | ยกยิมฟิตเนสมาไว้ที่บ้าน สร้างกล้ามเนื้อให้แข็งแรง
ยุคสมัยนี้คนเริ่มเข้าฟิตเนสเพื่อการออกกำลังกายที่หลากหลายขึ้น เพื่อได้ความฟิตทุกส่วนของร่างกาย แต่ประสบปัญหาเรื่องเครื่องออกกำลังกายอาจจะไม่เพียงพอ หรือ ไม่มีสมาธิมากพอต่อการออกกำลังกาย ดังนั้นการเลือก โฮมยิม (Home Gym) ดีๆสักหนึ่งเครื่องมาไว้ที่บ้าน จะทำให้คุณบริหารร่างกายได้อย่างเต็มที่ และ จริงจังต่อการสร้างกล้ามเนื้อยิ่งขึ้น
โดยทีมงานทีเอสเอ็มแอคทีฟได้มีโอกาสลองใช้งาน ชุดโฮมยิม (Home Gym 3 Station) มาบริการกล้ามเนื้อ ถือว่าตอบโจทย์คนยุคใหม่ที่ต้องการบริการกล้ามเนื้อทุกๆส่วนในเครื่องออกกำลังกายเพียงเครื่องเดียว ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้ออก, กล้ามเนื้อหลัง, กล้ามเนื้อแขน, กล้ามเนื้อขา และ หน้าท้อง อีกทั้งยังมีกระสอบทรายให้ฝึกท่าทางการต่อยมวย เรียกได้ว่าเครื่องเดียวสามารถเปลี่ยนการออกกำลังกายอยู่บ้านให้สนุกและเพลินเพลิดจนลืมเวลาไปเลย