Garmin Fenix 6 Series เป็นนาฬิกา GPS มัลติสปอร์ตระดับสูง จัดแบ่งออกเป็น 3 ขนาด เพื่อให้เหมาะกับขนาดข้อมือนักกีฬาโดยเฉพาะ ซึ่งเรียงตามขนาดเล็กไปถึงขนาดใหญ่สุดในรุ่น Fenix 6X นั้นเอง โดยวันนี้ทีมงานทีเอสเอ็มจะพาเพื่อนๆได้รู้วิธีใช้งาน Fenix 6 Series ยังไง ให้ได้ความคุ้มค่าที่สุด
1.ใส่แทนนาฬิกาปกติไปเลย
- สำหรับคนที่ชื่นชอบการออกกำลังกายแล้วหวังผลกับการฝึกซ้อม นาฬิกาออกกำลังกายจึงเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ด้วยสถิติข้อมูลที่นำมาพัฒนาประสิทธิภาพได้จริง และ รู้ผลลัพธ์จากหยาดเหงื่อที่ได้ออกกำลังกายไป
- ดังนั้นถ้าคุณต้องการนาฬิกาออกกำลังกายใส่สักเรือนแทนนาฬิกาปกติทั่วไปที่กำลังสวมใส่อยู่ คุณต้องเริ่มสังเกตตัวเองแล้วว่าคุณออกกำลังกายทุกวันไหม? เวลาออกกำลังกายถูกกำหนดไว้แน่นอนหรือไหม? จำเป็นไหมที่ต้องพกนาฬิกาถึง 2 เรือน? ถ้าคุณตอบคำถามนี้ได้ และ เทใจไปที่นาฬิกาออกกำลังกายมากกว่า แสดงว่าคุณไม่จำเป็นต้องใส่นาฬิกาทั่วไปแล้ว
- กลับมาที่ Garmin Fenix 6 Series สำหรับคนที่ไม่รู้จักชีรี่ย์ Fenix ขอเกริ่นแบบสั้นๆว่า แบรนด์ Garmin ได้ว่างตำแหน่งของรุ่น Fenix Series เป็นรุ่น Hi-End ของแบรนด์ เพื่อกลุ่มคนออกกำลังกาย และ นักกีฬา ด้วยราคาที่ค่อยข้างสูงแต่แลกมาด้วยคุณภาพวัสดุพรี่เมี่ยมสมราคา อย่างเช่น คาร์บอน, ไทเทเนียม และ สแตนเลสสตีล อีกทั้งเลือกใช้ Hardware ระดับสูง ถ้าเปรียบเทียบกับ PC ก็เรียกได้ว่าอัดสเปคมาเต็มประสิทธิภาพ
- ด้วยการผสมผสานดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์ในแบบฉบับ Fenix Series จึงทำให้ได้ภาพลักษณ์ในรูปแบบ Luxury แนวสปอร์ต ทุกการสวมใส่ พร้อมประสิทธิภาพที่เหนือระดับเท่าที่นาฬิกาจะติดตามและแสดงผลได้
2.เล่นกีฬาหลายประเภท
- หลังจากที่พูดถึงดีไซน์ไปแล้ว มาถึงในเรื่องโหมดกีฬา Garmin Fenix 6 Series กันบ้าง ด้วยพื้นฐานของกีฬาทั่วไป อย่าง วิ่ง, ปั่น, ว่ายน้ำ, ฟิตเนส อันนี้ต้องบอกว่าจัดเต็มมาก ด้วยข้อมูลสถิติตามประเภทกีฬาแบบละเอียดยิบ อีกทั้งกีฬาประเภทอื่นๆอย่าง เช่น กอล์ฟ, ปืนเขา, สกี, พายเรือ และ กิจกรรมกลางแจ้ง
- ซึ่งถ้าคุณชอบเล่นกีฬาหลากหลายประเภทมากกว่าการเล่นกีฬาแบบเดิมๆเพียงอย่างเดียว Fenix 6 Series ถือว่าตอบโจทย์ เพราะได้รวบรวมโหมดกีฬาเข้ามาพร้อมการติดตามขั้นสูง เลือกใส่เพียงเรือนเดียวสามารถติดตามกีฬาต่างๆได้ครบ โดยแบ่งรายละเอียดประเภทกีฬาตามนี้
วิ่ง
- วิ่งเทรล & วิ่งกลางแจ้ง
- ลู่วิ่ง
- ไตรกีฬา
จักรยาน
- ปั่นจักรยานกลางแจ้ง & ปั่นจักรยานเสือภูขา
- ขี่จักรยานในร่ม
ว่ายน้ำ
- ว่ายน้ำสระ
- ว่ายน้ำแหล่งเปิด
ฟิตเนส
- ฝึกความแข็งแรง, คาร์ดิโอ, เดินขึ้นบันได
- เครื่องอีลิปติคอล, เครื่องสเต็ปเปอร์
- พายเรือในร่ม, โยคะ
กิจรรมอื่นๆ
- กอล์ฟ
- ไต่เขา, ปีนเขา, ไตรกีฬา, เล่นสกี, สโนว์บอร์ด, เล่นสกีแบบผาดโผน, ยืนพายเรือ, พายเรือ พายเรือในร่ม, คายัค, Jumpmaster และ Tactical
3.เตรียมพร้อมที่จะเป็นนักกีฬา
ด้วยความเป็นรุ่นท็อปของแบรนด์ กับประสิทธิภาพที่รองรับผู้ใช้งานในระดับนักกีฬานั้น จึงทำให้ Garmin Fenix 6 Series ตอบโจทย์ในทุกๆด้าน ซึ่งอาจจะมีข้อติเพียงเล็กน้อย ในเรื่องของน้ำหนักตัวเรือน ซึ่งแลกมาด้วยวัสดุที่มีคุณภาพจาก สแตนเลส และ คาร์บอน สำหรับผู้ที่เคยสวมใส่ในตระกูล Forerunner มาก่อน แล้วได้เปลี่ยนมาใส่ Fenix 6 หรือ Fenix 6X ต้องปรับตัวในเรื่องของน้ำหนักของนาฬิกาสักระยะ แต่โดยรวมแล้วไม่ได้เป็นปัญหาในการเคลื่อนไหว
ถ้าถามว่าทำไม? ถึงเหมาะกับนักกีฬา ก็ต้องย้อนกลับมาที่เรื่องประสิทธิภาพของการติดตาม และ ข้อมูลสถิติที่ได้รับนั้น นักกีฬาสามารถนำไปวัดผลการซ้อมเพื่อปรับปรุงแผน รวมไปถึงรู้ฟอร์มความพร้อมก่อนการแข่งขัน เช่น ช่วงเวลาการฟื้นฟู และ การพัฒนาเพื่อก้าวสู้เป้าหมายของการแข่งขันนั้นๆ
ถ้าให้เปรียบเทียบ Garmin Fenix 6 Series เสมือนเป็นนาฬิกาในระดับ Commercial ด้วยการรองรับให้ใช้งานในระยะเวลายาวนาน วิ่งหรือทำกิจกรรมได้ไกลหลาย 100 กิโลเมตร หรือ รับมือกับสถานกาณ์ที่คาดเดาไม่ได้ ด้วยคุณภาพวัสดุที่ทนทาน ผสานกับซิปประมวล และ แบตเตอรี่ ที่มีประสิทธิภาพสูง
4.ลงแข่งทุกเดือน
ในข้อนี้ ไม่จำเป็นต้องเป็นนักกีฬา แต่เพียงมีใจรักลงงานวิ่ง หรือ งานแข่งขันทุกๆเดือน ก็ถือว่าคุณเข้าข่ายกับใช้งาน Garmin Fenix 6 Series ได้อย่างคุ้มค่า เพราะด้วยสถานการณ์การแข่งขันที่คุณไม่รู้ล่วงหน้ามาก่อน หรือ สถิติที่คุณสามารถนำไปปรับปรุงเพื่อรับมือกับงานแข่งขันหน้าได้อย่างมั่นใจ
จุดที่สำคัญหลักๆ คือ ปริมาณแบตเตอรี่ และ ระบบจัดการแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ จะแบ่งเป็น 2 ข้อสั้นๆ เพื่อให้ได้ทำความเข้าใจ
- รองรับการใช้งานแบบต่อเนื่องแบบยาวนาน พร้อมการวางแผนแบตเตอรี่ได้ด้วยตนเอง พร้อมเห็นภาพรวมของแบตเตอรี่ในปริมาณที่หลงเหลืออยู่ ทั้งในรูปแบบ จำนวนวัน หรือ ชั่วโมงที่สามารถใช้งานได้
- จัดการประสิทธิภาพของนาฬิกาเพื่อรักษาปริมาณแบตเตอรี ด้วยการเปิด/ปิดคุณสมบัติที่ไม่ได้ใช้งานออกไป เพื่อคงเหลือแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้ยาวนานขึ้น
ดังนั้นถ้าคุณมีงบถึงในช่วงราคาสองหมื่นขึ้นไป ตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด คงหนีไม่พ้น Fenix 6 Series และตัวเลือกรองลงมา อย่าง Garmin Forerunner 9XX เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น ที่พอสูสีในเรื่องประสิทธิภาพ แต่ในเชิงภาพลัษณ์ และ วัสดุทั้งหมด ยีงไม่สามารถเทียบเท่าได้
5.หาที่ซ้อมใหม่ๆอยู่ตลอด
คุณสมบัตินี้ต้องของยกออกมาเป็นหัวข้อสำคัญ ด้วยฟังก์ชั่นที่น่าใช้งาน ได้มาอยู่ Fenix 6 Series กับคุณสมบัติ "แผนที่นำทางอย่างเต็มรูปแบบ" ซึ่งจะมีเฉพาะในรุ่น Sapphire Edition ขึ้นไปเท่านั้น เหมาะกับผู้ที่ต้องการค้นหาสถานที่ซ้อมใหม่ หรือ เบื่อกับการซ้อมที่เดิมๆ เพียงใส่ข้อมูลระยะทาง ทิศทาง นาฬิาจะช่วยคำนวณและแสดงผลด้วยการนำทางจากแผนที่ อีกทั้งสามารถค้นหาสถานที่สำคัญรอบตัว เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกต่อการซ้อม ในสถานที่ไม่คุ้นชิน ซึ่งในคุณสมบัติแผนที่ได้ถูกแตกย่อยออกมาหลายอย่างดังนี้
- การนำทางแบบ Point-to-Point จากเส้นทางบนแผนที่
- การนำทางจากคอร์สเส้นทางล่วงหน้า
- Bread Crumb Trail แกะรอยเส้นทางแบบเรียลไทม์
- การสร้างเส้นทางทริปไปกลับ (การวิ่ง/การปั่นจักรยาน) กำหนดจากทิศ และ ระยะทาง
- โหมด Around Me สำรวจสถานที่สำคัญรอบตัว
- นำทางกลับไปยังจุดเริ่มต้น
อีกทั้งยังสามารถเลือกรูปแบบการแสดงแผนที่ได้กว่า 3 รูปแบบ เพื่อเข้ากับสถานการณ์นำทาง ซึ่งคุณสมบัติเกี่ยวกับแผนที่นี้จะเข้ามาช่วยแบ่งเบาการสำรวจเส้นทาง และ แข่งขันตามโปรแกรมได้อย่างรวดเร็วขึ้น โดยได้ประโยชน์จากการซ้อมและการแข่งขันในสถานการณ์จริง เข้ามาทดแทนสมาร์ทโฟนเปิดแผนที่
6.ชอบผจญภัยขั้นสุด
มาถึงข้อสุดท้าย อันนี้มาจากอารมณ์ของผู้ใช้งานล้วนๆ ซึ่งในการผจญภัยอย่างการเดินป่า หรือ อยู่ในกิจกรรมผาดโผน ผู้ใช้งานอาจต้องการความมั่นใจของข้อมูล หรือ ตำแหน่งที่แน่ชัด เพื่อยืนยันสถานการณ์ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่พลาดทุกการสำรวจ หรือ ข้อมูลสถิติ และ การนำทาง ตรงนี้เองที่ Fenix 6 Series ได้เพิ่มโหมดต่างๆเข้ามาให้กลุ่มคนที่รักการผจญภัยใช้งาน ด้วยความพร้อมของคุณภาพวัสดุ และ ประสิทธิภาพของนาฬิกาแล้ว ไม่ใช่เรื่องยากเลยที่ Fenix 6 Series จะสามารถใส่ใช้งานผจญภัยได้อย่างลงตัว
มาถึงโหมดทีเด็ดของนักเดินทาง "Expedition Mode" ที่จะเข้ามาลบคำว่า "ใส่นาฬิกา Garmin เดินป่านานๆเดี่ยวแบตก็หมดอยู่ดี" โดยโหมดนี้จะเข้ามาทำหน้าที่แทนนาฬิกาปกติ ให้สามารถติดตามตำแหน่งเพื่อสำรวจ พร้อมระบุบพิกัดด้วย GPS ในพลังงานแบตเตอรี่ที่ต่ำมาก โดยรองรับการใช้งานได้หลายสัปดาห์ โดยไม่ต้องหาสถานที่ชาร์จแบตเตอรี่อีกต่อไป