เป็นเวลาล่วงเลยมาปีกว่าๆแล้วที่ Fitbit ได้เปิดตัว Fitbit Charge, Fitbit Charge HR และ Fitbit Surge... สำหรับในปี 2559 นี้ ทาง Fitbit ได้ปล่อย นาฬิกาวัดชีพจรไร้สายคาด รุ่นใหม่ล่าสุดนั่นคือ Fitbit Blaze หรือชื่อเต็มๆที่เรียกว่า Fitbit Blaze Smart Fitness Watch นาฬิกาอัจฉริยะสำหรับการฟิตเนสโดยเฉพาะ! โดยได้วางขายในไทยวันนี้เป็นวันแรก (28 มีนาคม 2559) และทางทีเอสเอ็มก็อดใจไม่ไว้ที่จะนำมารีวิวให้ท่านๆได้ชมกันสดๆร้อนๆ จนมือแทบพองกันเลยทีเดียว (สำหรับราคาและสั่งซื้อสินค้า คลิกที่นี่)
เปิดกล่อง Fitbit Blaze
กล่องภายนอกได้เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง มาในแนวสี ขาว-น้ำเงิน สภาพกล่องค่อนข้างแข็งแรง พรีเมี่ยม เหมาะสมกับราคา
ด้านในกล่องบรรจุ Fitbit Blaze Tracker , สายชาร์จ และกระดาษให้เข้าไปที่เว็บไซต์ Fitbit.com/setup
- หน้าจอสีคมชัด พร้อมการแสดงผลเป็นภาพเคลื่อนไหว ทำให้ Fitbit Blaze ดูเป็นนาฬิกา Smart watch ที่เน้นในการออกกำลังกาย
- ตัว Tracker สามารถถอดออกได้ หมดปัญหาเรื่องสายนาฬิกาขาด หรือถ้าเพื่อนๆต้องการเปลี่ยนสีสายนาฬิกา เปลี่ยนเป็นสายหนังหรือสายสแตนเลสก็ทำได้ง่ายๆ ไม่ต้องมีข้อจำกัดเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว เลือกดูสาย Fitbit Blaze
สายนาฬิกา Fitbit Blaze ด้านหน้าและด้านหลัง เนื้อวัสดีที่ใช้ทำสายนาฬิกาค่อนข้างคล้ายกับ Fitbit รุ่นก่อนๆ แต่จะมีขนาดบางกว่า
- ความหนาตั้งแต่หน้าจอจนถึงเซ็นเซอร์วัดชีพจรที่ยื่นออกมาราวๆ 1 เซ็นติเมตร
- เซ็นเซอร์วัดชีพจรเหมือนกับรุ่น Fitbit Surge ใช้เทคโนโลยี PurePulse ของ Fitbit เช่นกัน
ที่ชาร์จแบตเตอรี่ค่อนข้างมาแปลก ลักษณะคล้ายกับกล่องหรือตัวหนีบ ใช้งานโดยถอด Tracker ออกจากสายนาฬิกาแล้ววางลงบนแท่นชาร์จ จากนั้นปิดฝาให้เรียบร้อย ไม่ปิดก็ไม่ได้นะ มันไม่ยอมชาร์จให้...
- สายนาฬิกาถอดเปลี่ยนได้ง่ายมากๆ แค่ใช้เล็บเขี่ยหมุดเล็กๆที่สาย
- เปรียบเทียบขนาด Fitbit Surge กับ Fitbit Blaze ด้วยความสามารถทั้งสองแล้ว เรียกว่ายังกินกันไม่ลง รุ่นพี่อย่าง Surge ก็ยังมีดีเรื่อง GPS และโครงสร้างที่แข็งแรงกว่า ส่วนน้องใหม่อย่าง Blaze จะเน้นไปทาง Smart หน้าจอสีสัน และลูกเล่นการปรับแต่งต่างๆ ไว้มีโอกาสจะรีวิวอีกทีครับ
ซิงค์ Fitbit Blaze
เริ่มต้นด้วยการดาวน์โหลด Fitbit App ได้ทั้งใน iOS และ Android ทำตามขั้นตอนทีละ Step
ใส่รหัสที่แสดงผลบนหน้าจอ Fitbit Blaze ให้ตรงกับในสมาร์ทโฟน จากนั้นทำตามรูปภาพจนการซิงค์เสร็จสมบูรณ์
หน้าจอขณะใช้งาน Fitbit Blaze
หน้าจอหลักของ Fitbit Blaze สามารถปรับแต่งได้จาก Fitbit App
- Today - แสดงข้อมูลสถิติในแต่ละวันของเรา คือ จำนวนก้าว, ระดับชีพจร, ระยะทางที่ใช้, แคลอรี่ที่เผาผลาญ และ จำนวนชั้น (Floor) ที่ขึ้น
- Exercise - เมื่อเริ่มต้นออกกำลังกายให้เข้าโหมดนี้เพื่อบันทึกสถิติต่างๆ ช่วยให้เราโฟกัสและมีสมาธิในการออกกำลังกายมากขึ้น เมื่อออกกำลังกายเสร็จ นาฬิกาจะแสดง Feedback สรุปผลลัพธ์ในแต่ละครั้งให้รู้อีกด้วย
- FitStar - โค้ชส่วนตัว มีท่าการออกกำลังกายประกอบให้ทำตาม โดยเริ่มต้นตอนนี้มีเพียง 3 โปรแกรมการเทรน
- Timer - ใช้เป็นนาฬิกาจับเวลาและนับถอยหลัง
- Alarms - ตั้งปลุกแบบสั่นผ่านทางสมาร์ทโฟน
- Settings - ตั้งค่านาฬิกาต่างๆ เช่น ความสว่างหน้าจอ การทำงานของเซ็นเซอร์วัดชีพจร
คู่มือการใช้งาน Fitbit Blaze
- วิธีการสวมใส่
- เพื่อให้ Fitbit Blaze อ่านระดับชีพจรของเราได้ดี ควรใส่ให้ห่างจากกระดูกข้อมือประมาณ 2-3 นิ้วมือ
- Fitbit Blaze กันน้ำกระเด็น กันเหงื่อ กันฝน แต่ใช้ว่ายน้ำไม่ได้ สามารถใช้อาบน้ำได้ แต่ไม่แนะนำ เพราะตัวนาฬิกาจะอับชื้นและสกปรก
- ทริปเทคนิค วิธีการรักษาให้อายุการใช้งานยาวนาน
- ทำความสะอาด Fitbit Blaze เป็นประจำด้วยน้ำสะอาด หรือ น้ำยาทำความสะอาดที่ไม่มีส่วนผสมของสบู่
- พยายามอย่าให้ Fitbit Blaze เปียกหรือชื้น ควรให้อยู่ในสภาพแห้งเสมอ
- การควบคุม Fitbit Blaze
- กดปุ่มใดๆ หรือ แตะกรอบนาฬิกา 2 ครั้ง เพื่อให้หน้าจอแสดงผล
- เลือกเข้าเมนูต่างๆ ด้วยการสัมผัสสไลด์ซ้าย-ขวา ที่หน้าจอ
- ย้อนกลับเมนูก่อนหน้าด้วยการกดปุ่มถอยหลัง (ซ้ายล่าง)
- เมนูลัด
- ดู Notification ด้วยการสไลด์จากด้านล่างขึ้นบน ขณะที่อยู่ในโหมดนาฬิกา หรือกดปุ่มขวาล่างค้างไว้
- ควบคุมการเล่นเพลงด้วยการสไลด์จากด้านบนลงล่าง ขณะที่อยู่ในโหมดนาฬิกา หรือกดปุ่มขวาบนค้างไว้
- การชาร์จแบต
- ถอด Tracker ออกจากสายนาฬิกาด้วยการกดตัว Tracker ถอยออกไปด้านล่าง
- วาง Tracker ลงบนที่ชาร์จและปิดฝา ชาร์จแบตจากไฟบ้านหรือจากคอมพิวเตอร์ผ่าน USB Port
- การชาร์จแบตให้เต็ม ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 5 วัน
- ดูความเปลี่ยนแปลง
- Fitbit Blaze ติดตามทุกๆสถานะของคุณตลอดเวลาที่สวมใส่ เลือกดูผลลัพธ์สถานะแต่ละวันได้ที่โหมด Today
- เมื่อครบเป้าหมายที่ตั้งไว้ Fitbit Blaze จะประกาศและแสดงความยินดีกับคุณทุกๆวัน เป้าหมายที่ตั้งเริ่มแรกคือ เดินครบ 10,000 ก้าว โดยคุณสามารถเปลี่ยนเป้าหมายได้เองใน Fitbit App
- ระดับชีพจร (Heart rate)
- Fitbit Blaze ติดตามระดับชีพจรตลอดวันรวมถึงขณะออกกำลังกาย คุณสามารถดูโซนระดับชีพจรได้โดยสังเกตุเครื่องหมายหัวใจดั่งนี้
- โซนชีพจรสูงสุด
- โซนคาร์ดิโอ
- โซนเบิร์นไขมัน
- ไม่อยู่ในโซน
- Fitbit Blaze ติดตามระดับชีพจรตลอดวันรวมถึงขณะออกกำลังกาย คุณสามารถดูโซนระดับชีพจรได้โดยสังเกตุเครื่องหมายหัวใจดั่งนี้
- การนอนหลับและการปลุกแบบสั่น
- Fitbit Blaze ติดตามผลการนอนหลับอัตโนมัติเพียงแค่ใส่ไว้ในขณะที่คุณนอนหลับ
- สามารถตั้งปลุกแบบสั่นได้ใน Fitbit App
- ติดตามผลการออกกำลังกาย
- เทคโนโลยี SmartTrack รู้ว่าคุณออกกำลังกายอะไรอยู่ และบันทึกข้อมูลสถิติให้อัตโนมัติ คุณสามารถเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าได้ใน Fitbit App
- เข้าโหมด Exercise เลือกกีฬาที่คุณเล่นเพื่อบันทึกสถิติ ระหว่างอยู่ในโหมด Exercise เลื่อนขึ้น - ลง เพื่อดูสถิติต่างๆ
- บันทึกเส้นทางโดยใช้สมาร์ทโฟนเป็น GPS
- ระบบแจ้งเตือน Notification
- Fitbit Blaze แสดงผลการแจ้งเตือนจากโทรศัพท์ได้แก่ สายเรียกเข้า, ข้อความ และ ปฏิทิน
- คุณสามารถตอบรับหรือปฏิเสธสายเรียกเข้าผ่านหน้าจอ Fitbit Blaze ได้เลย
- การเล่นเพลง
- ควบคุมการเล่นเพลงจากโทรศัพท์ได้ง่ายๆด้วยการกดปุ่มขวาบนค้างไว้
- หน้าปัดนาฬิกา
- เปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกาได้ในการตั้งค่าของ Fitbit App
- เปลี่ยนสายนาฬิกา Fitbit Blaze
- สายนาฬิกา Fitbit Blaze เปลี่ยนได้ด้วยการเลื่อนหมุดเล็กๆที่สาย
วีดีโอการแสดงผลและเมนูต่างๆ
สรุปข้อดีข้อเสีย
ข้อดี
- หน้าจอขนาดใหญ่ สีสันคมชัด มองเห็นได้ง่าย
- ระบบสัมผัสตอบสนองได้ไว
- กระจก Gorilla Glass 3 ป้องกันรอยขีดข่วน
- สามารถเปลี่ยนสายนาฬิกาได้ด้วยตัวเอง
- สามารถเปิด/ปิด การปลุกแบบสั่นผ่านนาฬิกาได้โดยตรง
- วัดระดับชีพจรได้โดยไม่ต้องใช้สายคาดหน้าอก
- ติดตามสถิติทุกๆข้อมูลที่จำเป็นระหว่างวันอัตโนมัติ แสดงผลผ่านหน้าจอแบบเรียลไทม์
- แบตเตอรี่อยู่ได้นานสูงสุด 5-6 วัน
- ตอบรับสายเรียกเข้าผ่านหน้าจอนาฬิกาได้เลย
ข้อเสีย
- หน้าจอไม่เปิดตลอด (Always-on) ใช้เซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหวของข้อมือเพื่อเปิด/ปิดหน้าจอ
- ไม่มี GPS ไม่สามารถคำนวนความเร็วขณะวิ่งกลางแจ้ง หรือ ความเร็วขณะปั่นจักรยานได้ (ถ้าใช้ GPS ต้องพกโทรศัพท์ไปด้วย)
- ระบบ Notification ไม่รองรับภาษาไทย และไม่รองรับ 3rd party app
- ต้องเอา Tracker ออกจากเฟรมนาฬิกาทุกครั้งเมื่อชาร์จแบตเตอรี่
Fitbit Blaze เหมาะกับใคร?
ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดจาก Fitbit Blaze เห็นจะเป็นการออกแบบที่ให้ผู้ใช้ได้ปรับแต่งสายนาฬิกาและหน้าปัดนาฬิกาเองได้ ซึ่งความสามารถนี้จะออกแนวคล้ายกับนาฬิกาทางฝั่ง Pebble แต่ทาง Fitbit ยังคงจุดเด่นในเรื่องกีฬาและการออกกำลังกายเป็นหลัก ทำให้เหมาะกับผู้ใช้ที่ต้องการนาฬิกาออกกำลังกายที่ใช้วัดชีพจรทางข้อมือ วัดแคลอรี่ หรือ ติดตามนับก้าวในแต่ละวัน และต้องการใส่เป็นนาฬิกาที่ช่วยเสริมในเรื่องของระบบ Notification / ตอบรับสายเรียกเข้า