Garmin HRM-PRO Plus สายคาดหน้าอกที่มาพร้อมเซ็นเซอร์วัดชีพจร นับว่าเป็น Generation ใหม่สุด และมีประสิทธิภาพสูงที่สุด โดยไม่แบ่งตามประเภทกีฬา อย่าง วิ่ง, ปั่นจักรยาน และว่ายน้ำ เหมือนอย่างเดิมอีกต่อไปแล้ว นอกจากจะรองรับกิจกรรมที่หลากหลายยังมาพร้อมฟังก์ชั่นที่มากกว่าการวัดชีพจร เรียกได้ว่าใช้แค่เพียง HRM-PRO Plus กับนาฬิกา Garmin รุ่นที่รองรับ ก็สามารถติดตามประสิทธิภาพการวิ่ง และการแข่งขันได้แบบละเอียดจัดเต็ม

 

 

1. เปลี่ยนแบตเตอรี่ง่าย

สายคาดอกปกติแล้ว อายุแบตเตอรี่พื้นฐานสามารถใช้งานได้นานสูงสุด 1 ปี ขึ้นอยู่กับระยะเวลาการใช้งาน ยิ่งใช้งานนานๆ ปริมาณแบตเตอรี่ก็ลดลง ซึ่งคราวนี้ HRM-PRO Plus ได้อัพเกรดใหม่ ให้ถอดเปลี่ยนได้ง่ายขึ้นกว่าเดิม จากรุ่น HRM-PRO (รุ่นเก่า) ที่ต้องเครื่องมือเพื่อเปิดครอบแบตเตอรี่ ซึ่งบางครั้งไม่สะดวกต่อการใช้งานในสถานการณ์จริงๆ

 

ตัวอย่างการถอดฝาครอบออก โดยต้องถอดถึง 2 ชั้น เพื่อป้องสิ่งสกปรก และละอองน้ำ ใช้แบตเตอรี่ประเภท CR2032 ที่หามาเปลี่ยนได้สะดวก

 

 

2. เชื่อมต่อกับ Garmin Connect app

HRM-PRO Plus รองรับการเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนด้วยระบบ Bluetooth ได้ทั้ง Android และ iOS สำหรับซิงค์ข้อมูล, อัพเดทเฟิร์มแวร์ และปรับแต่งการใช้งานเล็กน้อย สามารถใช้งานร่วมกับแอพออกกำลังกายอื่นๆ เช่น Polar Beat, Wahoo Fitness เพื่อติดตามอัตราการเต้นของหัวใจ

 

 

3. อัพเดทเฟิร์มแวร์ได้ผ่านนาฬิกา Garmin

อีกหนึ่งทางเลือก ที่สะดวก และรวดเร็ว เมื่อเชื่อมต่อ HRM-PRO Plus กับนาฬิกา Garmin รุ่นที่รองรับ เพื่อใช้งานวัดอัตราการเต้นของหัวใจแล้ว ยังสามารถอัพเดทเฟิร์มแวร์ให้กับสายคาดอก เพื่อรับการปรับปรุงใหม่ๆ

 

 

4. วัดได้มากกว่าชีพจร

HRM-PRO Plus ยังสามารถวัดสถิติอื่นๆได้อีกด้วย

  • อัตราการเต้นของหัวใจ
  • นาทีความเข้มข้น
  • ก้าวเดิน
  • แคลอรี่

ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะถูกติดตามก่อน แล้วค่อยนำไปแสดงใน Garmin Connect เมื่อมีการซิงค์ข้อมูล โดยไม่สามารถแยกออกเป็นโหมดออกกำลังกาย จึงจำเป็นต้องใช้งานคู่กับนาฬิกาออกกำลังกาย เพื่อบันทึกข้อมูลการออกกำลังกาย

 

 

5. เชื่อมต่อได้หลากหลาย

HRM-PRO Plus รองรับการเชื่อมต่อได้ทั้ง 2 ระบบ ทั้ง Bluetooth Smart และ ANT+ ซึ่งครอบคลุมกับอุปกรณ์เสริมต่างๆ และแอพออกกำลังกาย เช่น

  • เชื่อมต่อ Bluetooth กับ Zwift บน iPad
  • เชื่อมต่อ Bluetooth กับ Polar Pacer Pro
  • เชื่อมต่อ Bluetooth กับ Garmin Connect บน iPhone
  • เชื่อมผ่าน ANT+ ไปยัง Garmin Edge

ทั้งหมดนี้ สามารถเชื่อมต่อได้พร้อมกัน

 

และยังสามารถเชื่อมกับ Zwift app ได้ครบจบในอุปกรณ์เดียว ทั้งความเร็ว, รอบขา และอัตราการเต้นของหัวใจ

  •  ANT+ Footpod (Speed ​​& Cadence)
  • ANT+ Heart Rate Strap
  • Bluetooth Smart Footpod (Speed ​​& Cadence)
  • Bluetooth Heart Rate

 

สำหรับผู้ที่ใช้งานนาฬิกา Garmin ก็สามารถนำไปใช้งานได้อย่างเช่น

  • Forerunner 255, 955
  • Forerunner 245/245 Music, 745, 945, 955
  • Fenix 7 and Epix Families
  • Instinct 2

 

 

6. วัดข้อมูลการวิ่งขั้นสูง

โดยรองรับนาฬิกา Garmin Epix, Forerunner 245/255/645/745/945/955 หรือรุ่น Fenix ​​รุ่นใดก็ได้ เมื่อเชื่อมต่อกับ HRM-PRO Plus จะสามารถบันทึกข้อมูล Running Dynamics ในโหมดการวิ่ง และโหมดที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามข้อมูลที่เจาะลึกกว่าเดิม

อย่างเช่น

  • Stride Length
  • Vertical Ratio
  • Ground Contact Time
  • Ground Contact Time Balance,
  • Vertical Oscillation

 

อีกทั้งยังมีการติดตาม Running Power เมื่อใช้งานกับนาฬิกา Garmin รุ่นที่รองรับ เช่น Forerunner 255/955, Instinct 2, or Fenix 7 และ Epix 2 สำหรับติดตามค่าพลังงานการวิ่ง

 

ตัวอย่างการแสดงผลเมื่อติดตามสถิติ Running Dynamics และ Running Power

 

 

7. ใส่ก่อนซิงค์ข้อมูลทีหลัง

สำหรับฟังก์ชั่นนี้ จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับนาฬิกา Garmin ก่อน จะสามารถบันทึกข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจในการออกกำลังกายเพื่อถ่ายโอนข้อมูลภาพหลังจากออกกำลังกายเสร็จสิ้น ถือว่ามีประโยชน์สำหรับการว่ายน้ำ และกีฬาฟุตบอล วิธีใช้งานต้องเชื่อมต่อ และเริ่มใช้งานโหมดออกกำลังกายบนนาฬิกาก่อน เมื่อเสร็จกิจกรรมให้มาบันทึกบนนาฬิกาอีกครั้ง

 

 

8. ตั้งค่าการใช้งาน

สามารถเลือกการใช้งาน Auto Calibrate เพื่อปรับแต่งค่าให้ตรงกับการใช้งานมากที่สุด

 

 

อีกทั้งยังสามารถปรับเปลี่ยนการใช้งานสำหรับ Indoor เพื่อปิดการใช้งาน GPS และปรับการใช้งานให้ตรงกับสถานที่

 

 

สรุป

HRM-PRO Plus เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์เสริมที่สารพัดประโยชน์ เหมาะกับผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกาย หรือนักกีฬาที่ต้องการวัดผลขั้นสูง สำหรับแฟนๆ Garmin ต้องมีครอบครองสักเส้น รับรองว่าครบจบแน่นอน