โพสโดย
17 / 09
0 ความคิดเห็น
10432 เข้าชม
นาฬิกาวัดชีพจร
,
Activity tracker สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพ
,
รีวิวสินค้า
หลังจากที่ Basis B1 รุ่นก่อนหน้า หลายๆสำนักรีวิวในต่างประเทศ ยกให้เป็นนาฬิกาฟิตเนสอันดับ 1 เมื่อ 1-2ปีก่อน คราวนี้ Intel บริษัทคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ส่ง Basis Peak ลงมาแทนที่ โดยให้คำนิยามต่อท้ายว่า "Ultimate Fitness and Sleep Tracker" ผมเห็นแล้วก็นึกไปถึง Fitbit Surge "Fitness Superwatch" ทั้งสองรุ่นนี้เค้าเป็นคู่แข่งกันเลยล่ะ ไว้ในโอกาสหน้า จะมารีวิวเปรียบเทียบนะครับ แต่ในตอนนี้ เรามาพูดถึงความสามารถของ Basis Peak และข้อดีข้อเสียในแบบฉบับเต็มกันเลยนะครับ..
เปิดกล่อง Basis Peak
แพ็คเก็จด้านนอกดูดี ใช้พลาสติกอย่างแข็ง สมกับที่เป็น Activity tracker ระดับบนครับ
- หน้าจอแสดงผล นาฬิกาปัจจุบัน จำนวนข้อความใหม่ในสมาร์ทโฟน ระดับชีพจร และจำนวนก้าว
- ความสามารถหลัก ได้แก่
- ใช้ตอนออกกำลังกายติดตามระดับชีพจรโดยไม่ต้องใช้สายคาดหน้าอก นับก้าว และแคลอรี่
- ติดตามผลการนอนหลับ บันทึกค่า REM, Light sleep และ Deep sleep
- ทำหน้าที่นาฬิกาอัจฉริยะโดยการแจ้งเตือน ข้อความใหม่ สายเรียกเข้า อีเมล์ และอื่นๆ (ตั้งค่าได้ผ่าน app)
- เทคโนโลยี Body IQ รับรู้ได้ถึงกิจกรรมที่คุณทำอยู่ ไม่ว่าจะ วิ่ง เดิน หรือปั่นจักรยาน เซ็นเซอร์จะทำหน้าที่บันทึกให้อัตโนมัติ โดยไม่ต้องกดปุ่มใดๆ
- ให้แรงจูงใจ ช่วยให้ทำเป้าหมายทุกๆวันให้สำเร็จ
- ด้านหน้าและด้านหลังแบบใกล้ๆ
- อุปกรณ์ภายในกล่อง: นาฬิกา Basis Peak, แท่นชาร์จ, สาย Micro USB, คู่มือเริ่มต้นใช้งาน
- แผงเซ็นเซอร์ดูอลังการไม่เหมือนใครจริงๆครับ ตรงกลางเป็นเซ็นเซอร์วัดชีพจร ส่วนรอบๆ 4 จุดนั้น เป็นเซ็นเซอร์วัดเหงื่อ และวัดอุณหภูมิในร่างกาย
- สายถอดเปลี่ยนได้ด้วยตัวเอง
- หน้าจอแสดงผลกำลังชาร์จ
- Basis Peak app ซิงค์ข้อมูลเข้ากับนาฬิกา
- หน้าจอแสดงผลระดับชีพจร
- สายนาฬิกายืดหยุ่น ไม่แข็ง ใส่แล้วรู้สึกสบายๆครับ เราไม่จำเป็นต้องใส่ให้แน่นเพื่อให้ระดับชีพจรออกมาแม่นยำ สามารถใส่แบบหลวมๆได้ เพราะเซ็นเซอร์ของ Basis Peak ยิงออกมาไกลเพื่อรักษาระยะห่างจากผิวหนัง
Basis Peak Application
- ดาวน์โหลด Basis Peak app ได้ทั้ง iOS และ Android
- เริ่มต้นใช้งานตามภาพเลยครับ ง่ายมากๆ
- เริ่มอัพเดท firmware ให้อยู่ในรุ่นปัจจุบัน โดยวางอุปกรณ์ไว้ใกล้กับนาฬิกา
- Dashboard หน้าจอแรก แสดงข้อมูลโดยรวม
- แทปเมนู มีให้เลือก หลักๆคือ Habits, Activity feed และ Charting
- โหมด Habits เลือก ลักษณะนิสัยที่คุณต้องการทำให้เป็นความเคยชิน เช่น ปั่นจักรยาน 20 นาที ให้ได้ 2 วันต่ออาทิตย์
- Habits ที่มีให้เลือกทั้งหมด โดยที่เราจะเลือกได้ทีละ Habit และต้องทำให้ได้ตามเป้าหมายจึงจะได้ point เพื่อนำไปปลดล็อคในอีก Habit ต่อๆไป
- เลือกได้แล้วกด Add ได้เลย
- Activity feed แสดงกิจกรรมของเราโดยรวมให้เห็นเป็นรูปภาพ
- Charting แสดงกราฟที่เป็นผลลัพธ์จากเซ็นเซอร์ ตัวอย่างเช่น เส้นสีแดงหมายถึงระดับชีพจร แท่งสีส้มด้านล่างหมายถึงจำนวนแคลอรี่ที่เผาผลาญนั่นเอง
ข้อดี
- หน้าจอใช้กระจก Gorilla Glass Screen กันรอยขีดข่วนจากของมีคม 100%
- ความสามารถหลากหลาย วัดได้ทั้งชีพจร แคลอรี่ อุณหภูมิในร่างกาย และ การขับเหงื่อ
- การออกแบบให้เหมือนนาฬิกาทั่วไป เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบสายรัดข้อมือ
- น้ำหนักเบา สายนาฬิกายืดหยุ่น ใส่แล้วรู้สึกสบาย ไม่อึดอัด
- บันทึกสถิติค่อนข้างละเอียด ดูได้ทั้งทางสมาร์ทโฟนและบนเว็บไซต์ mybasis.com
- แชร์ข้อมูลที่บันทึกให้กับ app อื่นๆได้ เช่น Endomondo Strava และ fitness app ทั่วไป
- App เน้นการสร้างลักษณะนิสัยที่ถาวรเป็นหลัก (Habit)
ข้อเสีย
- ไม่มี GPS ไม่สามารถบันทึกระยะทางและเส้นทางที่วิ่ง/เดิน
- ระดับชีพจรคลาดเคลื่อนบ้างบางครั้ง
- ต้องชาร์จแบตเตอรี่ทุกๆ 2-5 วัน ขึ้นอยู่กับการใช้งาน
เหมาะกับ..
คนที่กำลังมองหา Activity tracker ที่เอามาใช้แทนนาฬิกาเลย ต้องการเซ็นเซอร์วัดผลที่ครบถ้วน แต่ไม่ได้ใช้ GPS หรือไม่ได้ออกกำลังกายแบบ Outdoor เป็นหลัก