Garmin ต่อยอดความสำเร็จให้กับตระกูล Forerunner ที่ถูกใจสายวิ่งคนไทย และคนทั้งโลกมาอย่างยาวนาน ล่าสุดได้เปิดตัว Forerunner 255 และ Forerunner 255s อัพเกรดประสบการณ์การใช้งานที่เหนือไปอีกขั้น รองรับฝึกซ้อม หรือการแข่งขันในระดับ มาราธอน และไตรกีฬา ในราคาที่เอื้อมถึงได้ง่ายๆ โดยรีวิวทางทีมงาน TSMACTIVE ได้สรุปสิ่งใหม่ใน Forerunner 255 Series ให้ได้ทราบความเปลี่ยนแปลง พร้อมฟังก์ชั่นใหม่ๆที่วัดกับรุ่นพี่ในแบรนด์ได้สบายๆ
1. มีให้เลือก 2 ขนาด
เป็นครั้งแรกของ Forerunner 2xx ที่มีให้เลือก 2 ขนาด สามารถเลือกให้เหมาะกับข้อมือได้ง่าย เพราะบางทีเราใส่นาฬิกาที่มีขนาดเล็ก หรือใหญ่เกินไป อาจจะไม่เหมาะกับไลฟ์สไตล์ ครั้งนี้ทาง Garmin จึงเพิ่มรุ่น 255S ขึ้นมา
ควรเลือกขนาดไหนดี?
ทั้ง 2 รุ่นย่อยนี้ มีความแตกต่างเรื่องขนาดอย่างชัดเจน ดังนั้นก่อนเลือกชื้อ ควรเลือกขนาดให้พอเหมาะกับข้อมือ เพื่อการสวมใส่ที่สวยงาม และการติดตามที่แม่นยำกับขนาดข้อมือ
- Forerunner 255S : เหมาะกับข้อมือเล็ก หรือผู้หญิง 41 x 41 x 12.4 (mm)
- Forerunner 255 : เหมาะกับข้อมือปกติ หรือผู้ชาย 45.6 x 45.6 x 12.9 (mm)
เปรียบเทียบขนาดกับ Forerunner 245
เมื่อนำ Forerunner 255S ไปเปรียบเทียบกับรุ่นเดิมอย่าง Forerunner 245 จะเห็นได้ว่าขนาดหน้าปัดมีความใกล้เคียงกัน ซึ่งแต่ก่อนคนที่ข้อมือใหญ่ๆ ต้องจำใจเลือกใช้ Forerunner 245 หรือเลือกรุ่นอื่นๆแทน คราวนี้ทาง Garmin ได้แบ่งไว้อย่างชัดเจนให้กับคนข้อมือเล็กๆโดยเฉพาะ
เทียบขนาด
จับ Forerunner 255 มาวัดขนาดกับรุ่นพี่อย่าง Forerunner 955 ที่มีขนาดใหญ่โต ซึ่งจริงๆแล้ว Forerunner 255 จะมีขนาดใกล้เคียงกับรุ่นในตำนานอย่าง Forerunner 235 นั้นเอง ใครที่กำลังอยากอัพเกรดจาก 235 บอกเลยไม่ควรพลาด
สรุปขนาด
การเปิดตัว Forerunner 255 และ Forerunner 255 คราวนี้ ทำให้ผู้ใช้งานเลือกง่ายกว่าเดิม ใครที่กำลังเล็ง 245 เดิมอยู่แต่หาของไม่ได้ แนะนำให้ 255S ไปได้เลย ส่วนคนข้อมือใหญ่ๆถ้างบจำกัดขอแนะนำ 255 แต่ถ้างบเหลือและอยากได้ระบบสัมผัส 955 คือคำตอบ
ความแตกต่าง
ชัดเจนในเรื่องความใหม่ของตระกูล 255 และ 955 ที่ได้เปรียบในเรื่องความสดใสใหม่ และฟังก์ชั่นที่อัพเดทมาให้รองรับการใช้งานในอนาคต โดยตารางต่อไปนี้ ได้คัดคุณสมบัติใหม่ๆให้ได้เห็นถึงความแตกต่างของรุ่นเดิม
สำหรับ 255 และ 955 สิ่งที่แตกต่างหลักๆคงเป็นการควบคุม เพราะ 255 ยังไม่มีระบบสัมผัสหน้า รวมไปถึงฟังก์ชั่น Solar สำหรับการยืดอายุแบตเตอรี่ด้วยการชาร์จพลังงานจากแสงอาทิตย์ แต่โดยรวมแล้ว 255 ถือว่าสูสีในเรื่องฟังก์ชั่นการฝึกซ้อมและการแข่งขันที่สามารถวัดกับ 955 ได้
เหมาะกับใคร?
- Forerunner 255 Series : New-Entry Level ~ Mid Level ผู้กำลังเริ่มต้นวิ่ง จนไปการฝึกซ้อมวิ่ง และกีฬาอย่างจริงจัง
- Forerunner 955 Series : Heigh Level ผู้ที่ประสบการณ์การฝึกซ้อม เพิ่มประสิทธิภาพ จนไปถึงการแข่งขัน หรือคาดหวังถึงผลงาน
สำหรับคนที่กำลังลังเล ระหว่าง 255 และ 955 ถ้างบไม่จำกัด ต้องการไปให้สุดทุกทาง แนะนำ Forerunner 955 ตัวจบแน่นอน เพราะยกร่างมาจาก Fenix 7 มาอยู่ในบอดี้ที่มีน้ำหนักเบากว่า ทำให้ใส่ติดข้อมือได้ยาวนานจนไม่เกิดอาการเมื่อยล้า แต่ใครที่ต้องการความคุ้มค่าในราคาที่เบากว่า Forerunner 255 ก็สามารถเป็นตัวจบได้เช่นกัน ด้วยฟักง์ชั่นต่างๆที่ไม่ได้ห่างกับรุ่นพี่ จะมีเพียงฟังก์ชั่นสูงๆที่เก็บไว้ให้เฉพาะ Forerunner 955 เท่านั้น เช่น ระบบสัมผัสหน้าจอ, หน่วยความที่เยอะกว่า หรือ การแสดงผลแผนที่สีเต็มรูปแบบ
2. ดีไซน์ใหม่
ข้อนี้ถ้าดูกับแบบผิวเผิน อาจจะดูไม่ค่อยมีอะไรเปลี่ยนแปลง แต่เมื่อมาดูกันใกล้ๆ ถึงรายละเอียด และงานประกอบ ต้องบอกเลยว่าแตกต่างกับรุ่นเดิมอย่างชัดเจน เรียกได้ว่ายกดีไซน์มาจากรุ่นพี่ Forerunner 955
ใครที่เคยลองจับรุ่นเดิมอย่าง Forerunner 245 อาจจะไม่ปลื้มกับวัสดุ และงานประกอบ แต่คราวนี้ใน Forerunner 255 Series ได้อัพเกรดดีไซน์ให้มีความโฉบเฉี่ยวขึ้น และปรับปรุงงานประกอบให้ดูดี ความรู้สึกการจับถือและสวมใส่ แน่นหนามากกว่าเดิม สมกับเป็นราคาหลักหมื่นต้นๆ ซึ่งมองเผินๆจะไปคล้ายกับรุ่นพี่คนกลางอย่าง Forerunner 745
ดีไซน์กรอบหน้าปัดใหม่เสริมความโค้งมนเข้ามา ช่วยป้องกันรอยบิ่น และทำให้ดูโอบรัดเข้ากับข้อมือได้อย่างลงตัว รวมไปถึงเฟรมด้านบนและด้านล่างที่ยกให้หนาขึ้น เพื่อเชื่อมต่อกับสายนาฬิกาได้กระชับมากขึ้น ถือว่าเป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ทาง Garmin ได้พัฒนาให้ผู้ใช้งานได้สัมผัสการสวมใส่ที่ดีขึ้น รวมไปถึงวัสดุ งานประกอบที่แค่จับถือก็รู้ว่าดีขึ้นกว่ารุ่นเดิม
สีสันให้เลือกตามไลฟ์สไตล์
นอกจาก Forerunner 255 Series จะแบ่งเป็น 2 ขนาดแล้ว ยังคงมีให้เลือกเป็น 2 รุ่นย่อเช่นเคย ทั้งนี้เพื่อประหยัดงบกับบางฟังก์ชั่นที่เราไม่ได้ใช้งานอีกด้วย
รุ่นปกติ
- 255 : สีเทาเข้ม (Slate Gray), สีน้ำเงิน (Tidal Blue)
- 255S : สีเทาอ่อน (Power Gray), สีชมพู (Light Pink)
รุ่นมิวสิค (เพิ่มหน่วยความจำเก็บเพลง)
- 255 : สีดำ (Black), สีขาว (Whitestone)
- 255S : สีดำ (Black), สีขาว (Whitestone)
3. แบตเตอรี่ & GPS
สำหรับมือใหม่ ที่กำลังหาข้อมูลแบตเตอรี่ของ Forerunner 255 Series ต้องบอกไว้ก่อนว่าถ้าใส่ติดตามสุขภาพประจำวัน ร่วมกับออกไปวิ่งวันล่ะ 1-2 ชั่วโมง มีแบตเตอรี่เหลือๆโดยไม่ต้องชาร์จได้นานเกือบสัปดาห์ สามารถใส่เพื่อติดตามการนอนอัตโนมัติข้ามคืน โดยไม่ต้องถอดมาชาร์จบ่อยๆ
สิ่งใหม่ในระบบ GPS ของ Forerunner 255 Series ได้เพิ่มการรอง Multi-Band Gnss ถ้าจะให้อธิบายง่ายๆ ก็คือการควบรวมระบบดาวเทียมหลายๆดวง มารับสัญญาณพร้อมกัน เพื่อรองรับได้ทุกสภาพแวดล้อม อย่างเช่น ป่าที่มีต้นไม้หนา หรือรอบๆตึกสูง ซึ่งดีกว่าระบบเดิมที่ใช้ดาวเทียมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
ระยะเวลาการใช้งานแบตเตอรี่
- โหมดสมาร์ทวอทช์ใช้งานได้นานสูงสุด 14 วัน
- โหมด GPS ใช้งานได้นานสูงสุด 30 ชั่วโมง
- โหมด GNSS ใช้งานได้นานสูงสุด 25 ชั่วโมง
- โหมด All-Systems GNSS ใช้งานได้นานสูงสุด 16 ชั่วโมง
- โหมด All-Systems GNSS + Music ใช้งานได้นานสูงสุด 6.5 ชั่วโมง (เฉพาะรุ่นมิวสิค)
โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าไปกำหนดการใช้งานระบบ GPS ได้เอง เพื่อเพิ่มความแม่นยำ หรือวางแผนการใช้งานแบตเตอรี่ได้ตรงตามความต้องการ โดยปกติแล้ว ระบบ GPS จะทำงานต่อเมื่อเราเริ่มใช้งานโหมดออกกำลังกาย ดังนั้นการใช้งานในชีวิตประจำวันปกติ ระบบ GPS จะปิดการใช้งานอัตโนมัติ
4. เพิ่มเซ็นเซอร์สำหรับกิจกรรม Outdoor
คราวนี้ Forerunner 255 Series ไม่ยอมน้อยหน้ารุ่นพี่ๆ ได้เพิ่มเซ็นเซอร์มาให้แบบจุใจ ติดตามได้ครบ เพื่อแสดงข้อมูล และนำไปประเมินการฝึกซ้อมได้อย่างจริงจัง
เซ็นเซอร์ที่เพิ่มเข้ามา
- Barometric Altimeter : วัดความดันบารอมิเตอร์ เช่น ความสูง และความกดอากาศ เพื่อรับมือกับกีฬาวิ่งเทรล หรือออกกำลังกายบนภูเขา
- Gyroscope : วัดระดับทิศทางของแกนหมุน ติดตามท่าทาง และลักษณะการออกกกำลังกายได้อย่างแม่นยำ
การที่เพิ่ม 2 เซ็นเซอร์นี้เข้ามา ถือเป็นเรื่องที่สำคัญอย่างมาก เพราะพลิกโฉบตระกูล Forerunner 2XX ให้รองรับกิจกรรม Outdoor ได้อย่างแท้จริง เพราะสามารถต่อยอดการฝึกซ้อม และแข่งขันได้มากขึ้น จากเดิมที่จำกัดอยู่แค่ การวิ่งถนน หรือในสนามเพียงเท่านั้น
5. รองรับการแข่งขัน
เมื่อย้อนกลับไปรุ่นก่อนๆ อย่าง 235 หรือ 245 ตัวนาฬิกายังถูกจำกัดให้รองรับได้ในกีฬาเพื่อฐาน ถ้าต้องการขยับไปเล่นกีฬาระดับสูง หรือแข่งขัน ต้องไปเพิ่มเงินไปเล่นรุ่นท็อปๆ แต่คราวนี้ใน Forerunner 255 Series มีเซ็นเซอร์ที่พร้อมแล้ว ทาง Garmin จึงเพิ่มโหมดต่างๆมาให้รองรับได้ครบ
โหมดใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
- วิ่ง : มาราธอน, เทรล, อัตรารัน, อัลตรามาราธอน
- แข่งขัน : ไตรกีฬา, Swimrun
- ว่ายน้ำ : แบบเปิดโล่ง
โดยปกติแล้วโหมดที่เพิ่มเข้าใหม่จะอยู่ในนาฬิการุ่นท็อปๆของ Garmin อย่าง Forerunner 9xx หรือ Fenix Series เพื่อรองรับการฝึกซ้อม และแข่งขันระดับสูง ซึ่งทั้งหมดนี้ได้ถูกเอามาใส่ใน Forerunner 255 Series ให้ได้ใช้งานให้ตรงกิจกรรม
6. ติดตามพลังการวิ่ง
ฟังก์ชั่นใหม่ที่มาพร้อมการเปิดตัว Forerunner 255 และ 955 Series ที่มากว่าการติดตาม Running Dynamics แบบเดิม ครั้งนี้เพิ่มขึ้นเพิ่มรองรับกับนักวิ่งที่ต้องการทราบค่าพลังโดยเฉพาะ
โดยการใช้งาน จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เสริมเพื่อวัดค่า Running Power โดยเฉพาะ สามารถใช้งานร่วมกับ Garmin Running Dynamics Pod หรือ Garmin HRM-Pro และนำมาเชื่อมต่อกับนาฬิกา เพื่อเพิ่ม Data Fields ให้แสดงผลในขณะที่ใช้งานโหมดวิ่ง
ข้อมูลที่จะแสดงผลเพิ่ม
- Power
- Power Gauge
- Avg. Power
- Lap Power
- Last Lap Power
- Max. Power
- Power Zone
สามารถนำไปประยุกต์กับโปรแกรมฝึกซ้อมได้ หรือตั้งค่ากำนหด % Watts และสรุปผลเพื่อเป็นตัวชี้วัดการฝึกซ้อมได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
7. ฟังก์ชั่นเพื่อนักปั่น
นอกจากฟังก์ชั่นต่างๆที่จะรองรับกีฬาวิ่งแล้ว Forerunner 255 Series ยังได้เพิ่มฟังก์ชั่นใหม่ๆสำหรับกีฬาจักรยาน เพื่อรองรับการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง และการวัดประสิทธิภาพโดยเฉพาะ
คราวนี้สามารถเชื่อมต่อกับ Power Meter ได้ และเซ็นเซอร์เกี่ยวกับจักรยานได้ดังนี้
- eBike (ANT+)
- Cycling Lights (ANT+)
- Light (ANT+ และ Bluetooth Smart)
- Cycling Radar ( ANT+)
- Smart Trainer (ANT+)
- Speed/Cadence (ANT+ Bluetooth Smart)
เรียกได้รองรับนักปั่นที่กำลังต้องการเพิ่มการฝึกซ้อมในร่มได้อย่างเต็มระบบ อีกทั้งสายไตรกีฬาที่ต้องใช้งานฟังก์ชั่นโหมดจักรยาน สามารถวัดผล หรือติดตามได้มากกว่าเดิม
8. แนะนำการฝึกซ้อม
ใครที่คิดว่านาฬิกามีหน้าที่แค่ติดตามเฉยๆ คราวนี้จะไม่ใช้แบบนั้นอีกต่อไปแล้ว เพราะ Forerunner 255 Series ได้เพิ่มลูกเล่นต่างๆจากการติดตามสุขภาพในชีวิตประจำวัน และการฝึกซ้อมทุกๆครั้ง มาสรุปและประเมินแนะนำเราในทุกๆวัน เหมือนมีโค้ชมาบอกเราอยู่ตลอดเวลา
ฟังก์ชั่นใหม่ที่เพิ่มเข้ามา
Morning Report : แสดงผลรวมถึงสุขภาพ และการฟื้นฟู ในทุกๆเช้าที่ตื่นนอนขึ้นมา เพื่อเตรียมพร้อมกับการซ้อม และรับมือต่อการออกกำลังกายในแต่ละวัน
Race Widget : แสดงผลคำแนะนำของการฝึกซ้อม หรือวางแผนการฝึกซ้อมให้เข้ากับสภาพอากาศ และระยะทางในแต่ล่ะวัน
Up Ahead : วางแผนตำแหน่งจุดสำคัญล่วงหน้า เพื่อคาดการณ์ก่อนที่จะถึงจุดต่างๆเช่น จุดพัก, จุดดื่มน้ำ หรือจุดร่วมตัว สามารถกำหนดได้ง่ายๆผ่าน Garmin Connect app
Training : รองรับการติดตามฝึกซ้อม Training Effect , Training Load Focus ควบคุมการฝึกซ้อมให้ตรงเป้าหมาย และ Heat and Altitude ที่ช่วยประเมินระดับความสูงและออกซิเจน เพื่อรับมือกับสถานการณ์ข้างหน้า
9. วัดผลสุขภาพ
นอกจากจะจัดเต็มในเรื่องกีฬาแล้ว Forerunner 255 Series ได้อัพเกรดเพื่อการติดตามสุขภาพให้แม่นยำ และละเอียดขึ้นกว่าเก่า ทั้งนี้เพื่อนำข้อมูลไปวิเคราะห์ในด้านการฝึกซ้อม และฟื้นฟูได้แม่นยำ
Health Snapshot
ได้เพิ่ม Health Snapshot โหมดสำหรับติดตามสุขภาพโดยเฉพาะ สำหรับตรวจหาค่าเฉลี่ยค่าชีพจร, ออกซิเจนในเลือด, ความเครียด และระดับการหายใจ โดยจะแม่นกว่าการวัดทั่วๆไป เพราะนาฬิกาจะใช้เวลาวัดถึง 2 นาที เพื่อหาค่าเฉลี่ยที่แม่นยำกว่า ใช้งานง่ายและเห็นค่าต่างๆได้ครบในครั้งเดียว
ข้อมูลการนอนหลับ
เมื่อเราสวมใส่ Forerunner 255 Series นอนหลับ ระบบต่างๆจะคอยติดตาม และตรวจวัดให้อัตโนมัติ และเมื่อตื่นนอนขึ้นมาสามารถตรวจเช็คได้ทั้ง ระยะเวลาการนอน, คะแนนการนอน, คุณภาพการนอน และช่วงเวลาต่างๆ ข้อมูลเหล่านี้สามารถบ่งบอกได้ถึงสุขภาพในประจำวัน และนำไปประเมินร่วมกับการฟื้นฟูเพื่อเตรียมพร้อมกับการแข่งขันได้อีกด้วย
10. ฟังก์ชั่นสมาร์ท
อย่าเพิ่งมองว่า Forerunner 255 Series เป็นแค่นาฬิกาสำหรับกีฬาเพียงเท่านั้น เพราะฟังก์ชั่นต่างๆสามารถเรียกได้ว่าเป็น "สมาร์ทวอทซ์" ที่รองรับความสะดวกสบายในชีวิตประจำวัน ทำให้สามารถสวมใส่ได้ตลอด ไม่จำเป็นต้องใช้เฉพาะตอนออกกำลังกายเท่านั้น
ฟังก์ชั่นเพลง (เฉพาะรุ่นมิวสิค) ยังคงมีอยู่ เพื่อรองรับการฟังเพลงจากนาฬิกาโดยตรง ไม่จำเป็นต้องพกสมาร์ทโฟนไปวิ่งให้ยุ่งยาก ซึ่งสามารถเชื่อมต่อหูฟังบลูทูธเข้ากับนาฬิกาได้โดยตรง สามารถเลือกฟังเพลงได้จากไฟล์เพลงที่โอนเข้า หรือจากบริการเพลง Joox ,Spotify
Garmin Pay
เป็นอีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่หลายๆคนมองข้าม แต่ช่วยให้เราไม่ต้องพกเงินสด และสามารถใช้นาฬิกาผูกเข้ากับบัตรเครดิตที่รองรับ และ Rabbit Card เพื่อใช้จ่ายแบบไร้สัมผัส โดยไม่ต้องพกบัตรหลายๆใบอีกต่อไป ซึ่งมีระบบรักษาความปลอดภัยต่อการใช้งาน โดยต้องตั้งค่ารหัสผ่าน เมื่อใช้งานทุกๆครั้งต้องใส่รหัสผ่านก่อนทุกครั้ง
สรุป
Forerunner 255 Series มีอนาคตอีกยาวไกล ถ้าคุณกำลังมองหานาฬิกากีฬาที่คุ้มค่าสักเรือน และได้ฟังก์ชั่นต่างๆที่ครอบจักรวาล เรือนนี้คำตอบ โดยไม่ต้องเพิ่มเงินเพื่อได้รุ่นท็อปๆ มีฐานกลุ่มผู้ใช้งานที่เยอะ ด้วยความสามารถที่รองรับได้ถึง 2 บุคลิก จะใส่เป็นแฟชั่นติดตามสุขภาพก็ได้แบบครบจบ หรือจะแนวสปอร์ตอันนี้ก็มาแบบโหดๆติดตามได้ครอบคลุม สุดท้ายแทบจะไม่มีขอติสำหรับรุ่นนี้ เนื่องด้วยฟังก์ชั่นที่ใส่เข้ามาใช้ยังไงก็ไม่หมด สำหรับมือใหม่ขอแนะนำให้ลองใช้งานไปเรื่อยๆ เพราะเมนูค่อนข้างเยอะ ต้องอาศัยความคุ้นเคยกันสักพักเลย