สวัสดีครับ เพื่อนๆ.. วันนี้ได้ฤกษ์มารีวิว Fitbit Surge รุ่นใหม่และรุ่นใหญ่ล่าสุดจาก Fitbit แบรนด์ Gadget สุขภาพชื่อดัง ลองดูจากรูปลักษณ์ภายนอก ผมไม่รู้จะเรียกว่าสมาร์ทว๊อชหรือสายรัดข้อมือดี ทาง Fitbit แต่งตั้งสมญานามให้เป็น "Superwatch" เลยทีเดียว เมื่อเทียบกับรุ่นอื่นๆของ Fitbit รุ่น Surge จะมีคุณสมบัติเหนือกว่าและแตกต่างจากรุ่นอื่นๆอย่างชัดเจน จึงเป็นเหตุผลให้รุ่น Surge มีราคาสูงที่สุดเช่นกัน
First look เปิดกล่องมาดูข้างใน
ไล่มาตั้งแต่ Fitbit Flex, Fitbit Force, Fitbit Charge, Fitbit Charge HR ทั้งหมดนี้ล้วนมีแพ็คเก็จที่คล้ายกันคือกล่องทรงสูง ผิวใส มองเห็นตัว Tracker จริงๆด้านในได้เลย ไม่เหมือนกับ Fitbit Surge จะไม่เหมือนยังไงลองดูรูปภาพด้านล่างครับ
- ด้านหน้ากล่องระบุไซส์ของอุปกรณ์ไว้มุมด้านขวาล่าง และนำเสนอความสามารถเด่นๆ 3 ข้อ ได้แก่ มี GPS , วัดชีพจรได้ , เป็นสมาร์ทว๊อซได้ด้วยนะ
- ด้านข้างแสดงไฮไลท์ขนาดอีกครั้งเพื่อความชัดเจน
- ด้านหลังบอกคุณสมบัติโดยรวม ฝากล่องภายนอกล็อคไว้ด้วยแม่เหล็ก เปิดออกมาเจอกล่องใสด้านใน
- เปิดเครื่องมา หน้าจอแจ้งให้เราเข้าเว็บไซต์ fitbit.com/setup เพื่อดาวน์โหลดโปรแกรม Fitbit พร้อมซิงค์เข้ากับคอมพิวเตอร์ได้เลย (รายละเอียดด้านล่าง)
- กล่องด้านล่าง Superwatch ของเรา มีสายชาร์จ , Wireless Sync Dongle และคู่มือภาษาอังกฤษ
- หัวสายชาร์จไม่เหมือนใคร ฉนั้นระวังอย่าทำหายล่ะครับ!
- ด้านหลังเป็นแถบเซ็นเซอร์ไฟ LED วัดชีพจร และช่องเสียบสายชาร์จ
- ลำแสง LED กระพริบหาสัญญาณชีพจร ตั้งเปิด-ปิด หรือ auto ได้ใน settings ครับ
- สายของ Fitbit Surge ค่อนข้างยืดหยุ่น เพราะขณะใส่วัดชีพจร ต้องใส่ให้กระชับ เพื่อให้แถบเซ็นเซอร์อ่านค่าชีพจรภายใต้ผิวหนังของเราได้
ตั้งค่าเริ่มต้นกับ Fitbit Connect
เริ่มต้นด้วยการเข้าไปดาวน์โหลด Fitbit Connect ที่ fitbit.com/setup จากนั้นทำตามรูปภาพได้ทีละขั้นตอนได้เลย
- เช็คอุปกรณ์ว่ามีครบตามรูปภาพไหม
- กดปุ่ม Home ด้านซ้าย ค้างไว้ 3 วินาที เพื่อเปิดเครื่อง ถ้าเครื่องเปิดไม่ติด ชาร์จแบตก่อนนะครับ
- ใส่รหัส 4 ตัว ให้ตรงกับที่ขึ้นในหน้าจอของ Fitbit Surge
- รอจน Surge อัพเดทจนเสร็จ
- ขณะที่ใส่ Fitbit Surge อย่าใส่ให้แน่นเกินไป ใส่ให้มีช่องว่างและยังขยับไปมาได้อยู่ เมื่อออกกำลังกายเสร็จ อย่าลืมถอดออกให้ผิวหนังได้พักผ่อนบ้างนะครับ
- วิธีการใส่วัดชีพจร - ตัว Surge ควรทาบไปกับข้อมือพอดี มีช่องว่างระหว่างข้อมือประมาณ 1นิ้ว(ตามรูป) แต่ถ้าอยากให้อ่านค่าชีพจรดีกว่าเดิม ควรมีช่องว่างประมาณ 2-3 นิ้ว
- วิธีการรักษา - หลังจากใช้งานทุกๆวัน โดยเฉพาะหลังจากออกกำลังกาย ควรทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาดหรือเซตาฟิล ไม่ควรใช้สบู่หรือสารเคมี
การควบคุม - กดปุ่ม Home ด้านซ้าย เพื่อสลับหน้าจอระหว่างโหมดนาฬิกาและเมนูอื่นๆ เลื่อนไปหน้าจออื่นๆด้วยปุ่มขึ้นลงด้านขวา หรือใช้วิธีสัมผัสหน้าจอก็ได้เหมือนกัน
ตั้งค่าและเรียนรู้วิธีใช้งานเสร็จเรียบร้อยครับ!
ตัวอย่าง Fitbit Surge
หน้าจอสแตนบายด์แสดงนาฬิกาปัจจุบัน เลื่อนดูจำนวนก้าว ฮาร์ทเรต ระยะทางทั้งหมด แคลอรี่ และ จำนวน Floor ได้ที่หน้าจอสแตนด์บายเหมือนกับ Fitbit Charge และ Fitbit Charge HR
เลือกเข้าโหมดวิ่ง ฟิตเนส หรือออกกำลังกายชนิดอื่นๆ สามารถปรับแต่งเพิ่มลดได้ในภายหลัง
- เข้าโหมดเทรน
- ด้านบนแสดงปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญ ปรับเปลี่ยนการแสดงผลไปตามแต่ละประเภทการออกกำลังกาย
- ตัวเลขใหญ่หมายถึงเวลาทั้งหมดที่ออกกำลังกายใน session นั้นๆ สามารถกดปุ่มขวาล่างเพื่อ pause/play
- ด้านล่างสุดสามารถเลื่อนให้แสดงผลลัพธ์ที่ต้องการได้ เช่น จำนวน step ระยะทางทั้งหมด ระดับชีพจร ฯลฯ
- กดปุ่มขวาบนเพื่อออกจากโหมดเทรน หน้า Summary แสดงผลลัพธ์โดยรวม โดยจะสรุปผลมากน้อยนั้นขึ้นอยู่กับการออกกำลังกายแต่ละประเภท
Fitbit Surge สามารถปิดเครื่องเพื่อประหยัดแบตเตอรี่ได้ครับ.. ความสามารถเบื้องต้นที่ Tracker ส่วนใหญ่ไม่สามารถทำได้ครับ
ทัวร์ Fitbit App
พาไปทัวร์ Fitbit app ใน iOS ผมจะขอข้ามเนื้อหาที่ซ้ำกับขั้นตอน setup ผ่านคอมพิวเตอร์ แสดงไว้เพียงแต่รูปภาพ เพื่อเป็นตัวอย่างให้เพื่อนๆได้ชมกัน
Fitbit app สามารถแสดงกราฟอัตราชีพจรได้ดั่งรูปภาพครับ สัญลักษณ์หัวใจจะแสดงในหน้าจอ Fitbit Surge แบ่งตามโซนชีพจร
สามารถตั้งค่าหน้าจอให้แสดง shortcut เมนูการออกกำลังกายได้สูงสุด 7 แบบ ตั้งค่าได้ใน Account settings ครับ
- ข้อดีของการมี GPS นอกจากจะวัดความเร็วปัจจุบันได้แล้ว ยังสามารถแสดงเส้นทางที่เราวิ่งหรือปั่นจักรยานให้เห็นเป็นภาพรวมได้อีกด้วย
- Notifications แจ้งเตือนข้อความและสายเรียกเข้าครับ
สรุป
Fitbit Surge Superwatch น่าจะเหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกายแต่ไม่ถึงกับเอาจริงเอาจังขั้นนักกีฬามืออาชีพ และ คนที่ต้องการใส่ Fitness tracker ที่มีความสามารถครบครันแบบจัดเต็มจริงๆ ที่สำคัญต้องพอมีงบประมาณสูงอยู่ระดับนึงด้วย การออกแบบที่แตกต่าง กึ่งนาฬิกา กึ่งสายรัดข้อมือ ทำให้รูปลักษณ์ภายนอกอาจจะดูแปลกๆตา แตกต่างจาก Wearable อื่นๆ อันนี้ต้องขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวล้วนๆ
ข้อดี
- ความสามารถสามารถสู้กับนาฬิกาออกกำลังกายระดับสูงได้เลย
- วัดอัตราชีพจรจากข้อมือ ไม่ต้องใช้สายคาดหน้าอก
- วัดชีพจรในแบบต่อเนื่อง Continous Heart rate
- ใช้งานง่าย(มาก) ไม่ต้องเก่งคอม ไม่ต้องใช้ทักษะด้านการกีฬา สามารถเข้าใจและใช้งานได้เลย
- แสดงเส้นทางที่วิ่งหรือปั่นจักรยานผ่านเว็บไซต์ด้วยความสามารถจาก GPS
- ควมคุมเพลงในโทรศัพท์ได้จาก Fitbit Surge
ข้อเสีย
- Notification ยังไม่รองรับภาษาไทย (update 10 feb 2015)
- กันน้ำได้แค่ 5ATM เฉพาะล้างมือและฝนตก ไม่แนะนำให้ใส่อาบน้ำครับ
- การวัดชีพจรจากข้อมือ ไม่แม่นยำเท่าวัดชีพจรโดยใช้สายคาดหน้าอก
- เซ็นเซอร์วัดชีพจรไม่สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ ต้องดูแลรักษาดีเป็นพิเศษ
- ราคาสูงกว่า Fitness tracker ตัวอื่นๆ (แต่ระดับความสามารถเท่านี้ ไม่ถือว่าสูงเกินไปครับ)