เมื่อ Garmin Forerunner 945 ออกมาใหม่ Garmin Forerunner 935 รุ่นเดิมยังน่าใช้งานอยู่ไหม ?
Garmin เปิดตัวนาฬิกา วิ่ง ไตรกีฬา GPS ในระดับพรีเมียมรุ่นใหม่ Forerunner 945 โดยก่อนหน้านี้มีรุ่นเดิมอย่าง Forerunner 935 เชื่อว่าหลายคนคงสงสัยและอยากรู้ว่า Forerunner 945 กับ Forerunner 935 มีความแตกต่างกันยังไงบ้าง ทางทีมงานทีเอสเอ็มได้สรุปข้อแตกต่างในหัวข้อหลักๆ และเปรียบเทียบสเปคทั้ง 2 รุ่นนี้ มีอะไรใหม่จากรุ่นเดิมบ้าง
Garmin Forerunner 945 นาฬิกา GPS วิ่ง/ไตรกีฬา มิวสิค
- อัพเดทสินค้าก่อนใคร เพียง กด “แจ้งเตือน เมื่อสินค้าพร้อมจำหน่าย” เพื่อรอการแจ้งเตือนใหม่ๆ
- https://tsmactive.com/Forerunner-945
* สำหรับวันจัดจำหน่าย และ ราคาในประเทศไทย ติดตามอัพเดทข่าวสารได้ที่ TSMACTIVE
- Line Official id : @tsmactive (มีเครื่องหมาย @ นำหน้า) หรือ คลิก
- และ Fanpage Facebook : http://facebook.com/tsmactive
01 | ลักษณะการใช้งาน
ด้วยระยะห่างของช่วงเวลาเปิดตัว Forerunner 935 กับ Forerunner 945 เพียง 2 ปี เท่านั้น จึงทำให้ความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีของนาฬิการะดับไตรกีฬาในซีรีย์ 9XX ไม่ได้แตกต่างและล้าสมัยไปแต่อย่างใด ด้วยพื้นฐานของ Forerunner 935 ที่เป็นนาฬิกาไตรกีฬาพรีเมี่ยม ซึ่งมีคุณสมบัติที่สามารถเพียบเท่ากับ Fenix 5 Series ได้ในแง่คุณสมบัติของกีฬานั้นเอง
Forerunner 935 | Forerunner 945 |
เปิดตัวในปี 2017 |
เปิดตัวในปี 2019 |
กันน้ำสูงสุด 50 เมตร |
กันน้ำสูงสุด 50 เมตร |
โหมด GPS ต่อเนื่องสูงสุด 24 ชั่วโมง |
โหมด GPS ต่อเนื่องสูงสุด 36 ชั่วโมง |
ทั้งคู่กันน้ำได้ลึกถึง 50 เมตร ถือว่าเพียงต่อการใช้งาน สำหรับด้านแบตเตอรี่โหมด GPS ต่อเนื่อง Forerunner 935 ใช้งานสูงสุด 24 ชั่วโมง แต่ Forerunner 945 เพิ่มขึ้นด้วยการใช้งานสูงสุด 36 ชั่วโมง แตกต่างกันประมาณ 12 ชั่วโมง โดยทั้งคู่สามารถสแตนบายในโหมดนาฬิกาปกติถึง 2 สัปดาห์
02 | การออกแบบ
ในด้านดีไซน์การออกแบบ ทั้งคู่มีหน้าตาและรูปทรงที่ใกล้เคียงกัน ด้วยระบบการเปลี่ยนสาย ที่ยังคงต้องใช้เครื่องมือเปลี่ยนสายอยู่ ซึ่งยังรองรับสาย QuickFit อยู่เหมือนเดิม จะมีบ้างจุดที่แตกต่างกันบ้าง เช่น ลักษณะของปุ่มกด และ หน้าจอ ในเรื่องน้ำหนักของตัวเรือนและสายยังคงมีน้ำหนักเบา ที่รองรับการสวมใส่ได้ยาวนาน
Forerunner 935 | Forerunner 945 |
หน้าจอ กระจกเสริมแรง | หน้าจอ Corning® Gorilla® Glass DX |
น้ำหนัก 49 กรัม | น้ำหนัก 50 กรัม |
ไม่รองรับ NFC Payments |
รองรับ NFC Payments |
สิ่งที่เพิ่มเข้าใน Forerunner 945 นั้นก็คือระบบชำระเงินด้วยบัตรเครดิตผ่านนาฬิกา อย่าง Gamin Pay จากเทคโนโลยี NFC ที่เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกโดยไม่ต้องพกพากระเป๋าเงินในขณะออกกำลังกาย และ วัสดุหน้าจอที่อัพเกรดจากกระจกเสริมแรง เปลี่ยนไปใช้ Corning® Gorilla® Glass DX ที่มีความทนทานขึ้น
03 | คุณภาพเพลง
ในด้านคุณสมบัติการ ฟังเพลงจากนาฬิกา หรือ บริการสตรีมเพลง อย่าง Spotify ทั้งหมดนี้ถูกเพิ่มเข้าไปใน Forerunner 945 ที่จะทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องพกสมาร์ทโฟนฟังเพลงไปพร้อมออกกำลังกาย ด้วยหน่วยจำในนาฬิกาที่สามารถจัดเก็บเพลงได้ถึง 1,000 เพลง รับฟังเพลงด้วยหูฟังบลูทูธจากการเชื่อมต่อระหว่าง นาฬิกา + หูฟัง ที่ทำให้ออกกำลังกายพร้อมกับการฟังเพลงได้นานสูงสุดถึง 10 ชั่วโมง
Forerunner 935 | Forerunner 945 |
ควบคุมเพลง จากสมาร์ทโฟน | ควบคุมเพลง จากสมาร์ทโฟน |
ไม่รองรับ ฟัง/เก็บ เพลงจากนาฬิกา | รองรับ ฟัง/เก็บ เพลงจากนาฬิกา |
ไม่รองรับ บริการสตรีมเพลง | รองรับ บริการสตรีมเพลง |
การควบคุมเพลงจากสมาร์ทโฟน เป็นสิ่งเดียวที่ Forerunner 935 สามารถทำได้ ซึ่งตอบโจทย์ผู้ใช้งานที่ยังคงเลือกใช้สมาร์ทโฟนในการรับฟังเพลง โดยไม่ต้องหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาเปลี่ยนเพลงอยู่บ่อยๆ
04 | การนำทาง
Garmin Forerunner 945 เป็นรุ่นแรกในตละกูล Forerunner ที่สามารถแสดงแผนที่สีอย่างเต็มรูปแบบ ช่วยให้เห็นเส้นทางแบบรอบด้านจากแผนที่ที่มีลักษณะเหมือนกับ Google Maps นั้นเอง แสดงทั้งสถานที่ใกล้เคียง และ จุดสำคัญ รวมไปถึงการนำทาง และ ค้นหาแผนที่การออกกำลังกายอัตโนมัติอีกด้วย
Forerunner 935 | Forerunner 945 |
นำทางแบบ Point-to-Point | นำทางแบบ Point-to-Point |
ไม่รองรับ แผนที่สีเต็มรูปแบบ | รองรับ แผนที่สีเต็มรูปแบบ |
วางแผนเส้นทางล่วงหน้า | วางแผนเส้นทางล่วงหน้า |
ในเรื่องการสร้างคอร์สเส้นทางล่วงหน้า หรือ ดาวโหลดเส้นทางที่ใช้งานสำหรับการแข่งขัน, การแสดงเส้นทาง Breadcrumb และ นำทางแบบ Point-to-Point ใน Forerunner 935 ยังคงทำได้อยู่ เพียงแต่ขาดการแสดงแผนที่สีเต็มรูปแบบออกไป ซึ่งกลุ่มผู้ใช้งานคุณสมบัตินี้ เหมาะกับการแข่งขัน หรือ ฝึกซ้อม ในสถานที่ใหม่ๆ ที่ต้องใช้แผนที่เข้ามาช่วยในการผลัดหลง และ รักษาตำแหน่งให้ตรงตามโปรแกรมแข่งขัน
05 | การฝึกซ้อม
Garmin Forerunner 945 ได้เพิ่ม Pulse Ox เซ็นเซอร์วัดค่าออกซิเจนในเลือด ซึ่งเหมาะกับการฝึกซ้อมขั้นสูง และ ผู้ใช้งานในกิจกรรมผจญภัย และ เทรล พร้อมด้วย Climb Pro ที่จะทำให้เห็นตำแหน่งความชันปัจจุบันและที่กำลังจะเกิดขึ้นข้างหน้า
Forerunner 935 | Forerunner 945 |
ไม่รองรับ Pulse Ox วัดค่าออกซิเจนในเลือด | รองรับ Pulse Ox วัดค่าออกซิเจนในเลือด |
ไม่รองรับ แจ้งเตือนฉุกเฉิน (สมาร์ทโฟน) | รองรับ แจ้งเตือนฉุกเฉิน (สมาร์ทโฟน) |
ไม่รองรับ Climb Pro คำนวณระดับความชัน | รองรับ Climb Pro คำนวณระดับความชัน |
ส่วนคุณสมบัติการฝึกซ้อม วางแผน และ วิเคราะห์ หลักๆ ทั้งคู่ยังจัดเต็มเหมือนเดิม ทั้ง VO2Max,Training Status, Training load, Training Effect (anaerobic/aerobic) และ Recovery time ซึ่ง Forerunner 945 จะได้เปรียบกว่าเล็กน้อยในด้านคุณสมบัติวิเคราะห์การฝึกที่เพิ่มอัพเกรดขึ้นมา และ สุดท้ายในเรื่องการรองรับอุปกรณ์เสริม ทั้งคู่สามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆของ Garmin ได้ครบถ้วน ทั้งระบบ ANT+ และ Bluetooth รวมไปถึง Running Dynamics Pod ที่ช่วยลงลึกข้อมูลการวิ่งอย่างรอบด้าน
สรุปปิดท้าย
ด้วยชื่อเสียงของ Forerunner 935 ที่ไม่เป็นสองรองใคร ทั้งคุณสมบัติการใช้งานขั้นสูง รองรับผู้ใช้งานตั้งแต่เริ่มต้น - ระดับนักกีฬา จึงทำให้เป็นนาฬิกา GPS ไตรกีฬาที่มีความคุ้มค่าอย่างมาก ซึ่งมาเปรียบเทียบในหัวข้อหลักๆแล้ว ถ้าคุณเองไม่ได้ต้องการฟังเพลงจากนาฬิกา และ ใช้งานแผนที่สี Forerunner 935 ยังคงเพียงพอต่อการใช้งานของคุณอย่างแน่นอน แต่ถ้าต้องการใช้งานคุณสมบัติใหม่ๆเพิ่มเติม Forerunner 945 ก็ยังถือว่ามีความคุ้มค่า แต่ต้องแลกมาในราคาที่สูงกว่า