เปรียบเทียบ Forerunner 645 กับ Vivoactive 3 เลือกรุ่นไหนให้เหมาะสม ?

ก่อนที่เลือกใช้งานระหว่าง 2 รุ่นนี้ มาชมการเปรียบเทียบคุณสมบัติต่างๆถึง10 ข้อ ที่ทำให้คุณเข้าใจง่ายๆในหน้าเดียวพร้อมให้คุณเลือกซื้อนาฬิกาไปใช้งานอย่างคุ้มค่าที่สุด ด้วยทีมงาน TSMactive ที่คัดสรรบทความดีอย่างต่อเนื่อง  

 

Forerunner Series / Vivo Series คืออะไร ?

เริ่มด้วย Garmin Vivo Series นาฬิการะดับเริ่มต้น ที่มีทั้งสายรัดข้อมือออกกำลังกายและนาฬิากา GPS ให้เลือกใช้งาน อย่างเช่น Garmin Vivoactive 3 รุ่นยอดฮิต ซึ่งตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสุขภาพและลดน้ำหนักจนไปถึงผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกายทั้ง ฟิตเนส, วิ่ง และ ปั่นจักรยานต้องทำความเข้าใจกันก่อนว่านาฬิกา 2 รุ่นนี้เป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่อยู่ในแบรด์เดียวกันคือ Garmin แต่ถ้ามองให้ลึกไปกว่านั้นทั้ง 2 รุ่นอยู่แตกต่าง Series กัน จึงขออธิบายให้เข้าใจประเภทนาฬิกาแบบชัดๆกันไปเลย

  • ต่อด้วย Garmin Forerunner Series นาฬิการะดับกลาง ที่เหมาะกับการใช้งานอย่างจริงจังด้วยคุณสมบัติที่เยอะกว่า ใช้งานได้ทุกโอกาสเช่นกัน ทั้งการออกกำลังกายและในชีวิตประจำวัน เหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำ เพิ่มประสิทธิภาพและลงลึกในการฝึกซ้อม (แนะนำให้เลือกใช้ตั้งแต่รุ่น FR645 ขึ้นไป ถึงจะได้รับคุณสมบัติที่ครบ)

     

ระบบการควบคุม

  • Vivoactive 3 : ควบคุมด้วยการสัมผัสหน้าจอหรือทัชสกรีนนั้นเอง แต่ยังมี 1 ปุ่ม และ แทบเลื่อนแบบสัมผัสด้านข้างหน้าจอให้เลือกใช้งาน ทำให้ควบคุมการใช้งานได้รวดเร็วทันใจ แต่ต้องแลกกับการตอบสนองในบางโอกาสที่จะไม่ 100% เหมือนปุ่มกดนั่นเอง
  • Forerunner 645 : เลือกใช้งานการควบคุมแบบปุ่มกดทั้งหมด เพื่อเข้าถึงการใช้งานที่แม่นยำในทุกสถานการณ์ โดยตัดหน้าจอระบบสัมผัสออกไป เพื่อลดอาการผิดพลาดในการควบคุมขณะออกกำลังกายทั้งกลางแจ้งและในน้ำ

 

วัสดุ

  • Vivoactive 3 : บอดี้ของ Vivoactive 3 มีขนาดบางกว่า FR 645 เพียงเล็กน้อย เนื่องด้วยความเหมาะสมของการใช้งานในชีวิตประจำวัน รูปทรงจึงออกแนวกลางๆไม่ดูสปอรต์จนเกินไป แต่ทั้ง 2 รุ่นนี้ สามารถเลือกใช้สาย Quick Release เปลี่ยร่วมกันได้
  • Forerunner 645 : เลือกใช้วัสดุบอดี้ที่แข็งแรงและทนทานกว่า Vivoactive 3 ขึ้นมาอีกระดับ ทั้ง 2  มีน้ำหนักที่ใกล้เคียงกัน แต่เมื่อสวมใส่ FR645 ออกกำลังกายดูรูปทรงจะเข้ามือกว่า ซึ่งโดยดีไซน์รวมจะสปอร์ตและแข็งแรงกว่า

 

ฟังเพลง

  • Vivoactive 3 : น่าเสียดายที่ใน Vivoactive 3 ยังไม่มีคุณสมบัติในการฟังผ่านนาฬิกา แต่ยังใช้งานคุณสมบัติการควบคุมเพลงจากสมาร์ทโฟนโดยตรง ซึ่งต้องเชื่อมต่อระหว่างนาฬิกากับสมาร์ทโฟนไว้ตลอดเวลา
  • Forerunner 645 : FR 645 ในรุ่นที่ลงท้ายด้วย "Music" นั้นสามารถโอนถ่ายเพลงจากคอมพิวเตอร์มาเก็บไว้นาฬิกาได้ถึง 500 เพลงในนามสกุล .Mp3 โดยรับฟังเสียงเพลงจากหูฟังบลูทูธที่รองรับ จึงไม่จำเป็นต้องพกพาสมาร์ทโฟนอีกต่อไป

 

แบตเตอรี่

  • Vivoactive 3 : โหมดนาฬิกาปกติสูงสุดถึง 5-7 วันถือว่าเท่ากัน และ ใช้งานออกกำลังกายด้วย GPS ใช้งานได้ต่อเนื่องถึง 11 ชั่วโมง ยังเป็นรอง FR645 ในการใช้งาน GPS ในโหมดปกติ
  • Forerunner 645 : เปิดสแตนบายในโหมดนาฬิกาปกติได้สูงสุดถึง 5-7 วัน / ใช้ออกกำลังกายด้วย GPS โดยไม่ฟังเพลงได้สูงสุด 14 ชั่วโมง แต่ถ้าฟังเพลง + GPS จะเหลือเพียง 5 ชั่วโมง ยังถือว่าเหลือๆ

 

โหมดออกกำลังกาย

  • Vivoactive 3 : น่าแปลกที่ FR645 นั้นไม่มีโหมดกอล์ฟ แต่ Active 3 นั้นมีโหมดกอล์ฟให้ได้เลือกใช้งานสำหรับนักกอล์ฟมือใหม่ โดยรวมแล้วโหมดออกกำลังกายของ Active 3 เพียงพอสำหรับผู้เริ่มต้นออกกำลังกาย
  • Forerunner 645 : ถ้าเทียบกันแล้วทั้ง 2 รุ่น FR645 และ Active 3 มีโหมดกีฬาครบที่ใกล้เคียงกันอยู่ แต่ FR645 นั้นลงลึกเรื่องการติดตามที่เหนือกว่า และเหมาะสมกับการใช้งานในการแข่งขันได้ดีกว่า Active 3

  

คุณสมบัติการออกกำลังกาย

  • Vivoactive 3 : คุณสมบัติการออกกำลังกายที่กล่าวในของ FR645 ด้านบนนั้นได้ถูกตัดออกไปใน Active 3 แต่ยังมีคุณภาพพื้นฐานที่มีเหมือนกันทั้ง 2 รุ่น อย่าง Customizable alerts, Auto Pause และ Lap แบบ Auto/Manual
  • Forerunner 645 : สิ่งที่โดดเด่นสำหรับคุณสมบัติการออกกำลังกายที่ช่วยพัฒนาประสิทธิภาพ อย่างเช่น Race Predictor, Recovery Advisor และ Virtual Feature ที่ใส่มาอย่างจัดเต็ม

 

คุณภาพการฝึกซ้อม

  • Vivoactive 3: มีเพียง VO2MAX ไว้สำหรับการตรวจเช็คความฟิตของร่างกาย โดยตัดคุณสมบัติของการติดตามสถานะการฝึกซ้อมออกไป จึงเหมาะกับการออกกำลังกายปกติที่ยังไม่เน้นการฝึกซ้อม
  • Forerunner 645 : มี VO2MAX, Training Status, Training Load, Training Effect และ Training Effect ไว้สำหรับการติดตามสถานะการฝึกซ้อมและฟอร์มการออกกำลังกายเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพได้ต่อเนื่อง

 

เส้นทางการออกกำลังกาย

  • Vivoactive 3 : ทั้งหมดที่กล่าวใน FR645 นั้นไม่สามารถใช้งานได้ใน Vivoactive 3 จึงเป็นข้อแตกต่างที่ชัดเจนสำหรับผู้ต้องการคุณสมบัติในการวางแผนเส้นทางออกกำลังกาย โดยทำได้แค่บันทึกตำแหน่งและแสดงจำนวนระยะทางเท่านั้น
  • Forerunner 645 : สำหรับการร่วมทริปออกกำลังกาย สิ่งที่สำคัญคือการวางเส้นทางล่วงหน้าในสถานที่ไม่รู้จัก ซึ่งใน FR645 นั้นสามารถออกกำลังกายร่วมกับเส้นทางที่วางแผนไว้ได้ และใช้คุณสมบัติ Segments และ Group Tracking ในการปั่นจักรยานได้

 

รองรับอุปกรณ์เสริม

  • Vivoactive 3 : สำหรับผู้ที่ออกกำลังกายที่ต้องการใช้อุปกรณ์เสริม ใน Active 3 ยังมีให้เลือกใช้งานอยู่ ทั้งสายคาดอกวัดชีพจร และ Bike Speed & Cadence Sensor
  • Forerunner 645 : FR645 รองรับอุปกรณ์ได้เยอะกว่า โดยเพิ่ม Bike Radar (ANT+) สำหรับจักรยาน และ Garmin Running Dynamic Pod เพื่อลงลึกในเรื่องวิ่ง

 

ความเหมาะสมกับการใช้งาน

  • Vivoactive 3 : ถ้าถามรุ่นนี้เหมาะกับใคร ให้นึกถึงชื่อรุ่น นั้นคือ Active นั้นเอง เพราะ แม้ไม่ได้ออกกำลังกายเป็นประจำแต่เมื่อส่วมใส่ Vivoactive 3 แล้ว เหมือนมีตัวช่วยจุดประกายให้แอคทีฟกับการเคลื่อนไหวและอยากออกกำลังกายมากกว่าเดิม ทั้งหมดนี้จึงเหมาะผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกายและใช้งานในชีวิตประจำวัน
  • Forerunner 645 : สำหรับใครที่กำลังเล็ง FR235 (รุ่นเก่า) อยู่ ขอแนะนำให้มองรุ่นที่ใหม่และคุณสมบัติคุ้มค่ากว่า อย่าง FR645 ในรุ่นปกติ แต่ถ้าอยากฟังเพลงให้เกรดเป็นรุ่น FR645 Music ด้วยสดใหม่และรองรับอุปกรณ์เสริมในอนาคตได้ครบกว่า จึงเหมาะกับผู้ที่ออกกำลังกายเป็นประจำและเน้นการประสิทธิภาพควบคู่กันไป

 

เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่การเลือกใช้งาน

ทั้งหมดนี้คือบทความเปรียบเทียบนาฬิกา 2 รุ่นยอดนิยม ซึ่งถูกเรียบเรียงและคัดข้อแตกต่างในคุณสมบัติต่างๆมาให้อย่างชัดเจนเพื่อบอกเล่าแก่ผู้ที่กำลังสนใจและหาข้อมูลอยู่  ซึ่งเราตั้งใจเพื่อช่วยให้คุณเลือกได้ใช้นาฬิกาที่ตรงเป้าหมายและรับคุ้มค่ากับการใช้งานที่สุด ทีมงานเว็บไซต์ TSMACTIVE ได้อัพเดทข้อมูลเกี่ยวกับนาฬิกาออกกำลังกายอยู่สม่ำเสมอและเป็นที่เดียวที่ช่วยให้คุณรู้ลึกแบบหมดเปลือกและตัดสินใจได้ด้วยข้อมูลที่ง่ายไม่ซับซ้อน เพื่อเป็นการส่งเสริมข้อมูลดีๆแบบนี้ต่อไปให้แก่ลูกค้าทุกท่านแบบต่อเนื่อง ท่านสามารถสั่งซื้อสินค้าเราได้ที่เว็บไซต์ TSMACTIVE ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และ หน้าร้านของเราแต่ล่ะสาขา ขอขอบพระคุณอย่างสูง