พรีวิวเจาะลึก Garmin Fenix 5 Plus Series (Fenix 5S Plus / Fenix 5 Plus / Fenix 5X Plus) ที่สุดของนาฬิกาออกกำลังกายขั้นสูง
Garmin เปิดตัว "Fenix 5S Plus, Fenix 5 Plus, Fenix 5X Plus" ต่อยอดความสำเร็จ นาฬิกา GPS มัลติสปอร์ตขั้นสูงจาก Fenix 5 Series (รุ่นที่ไม่ได้ลงท้าย Plus) ที่ขึ้นแท่นเรือธงมาตลอดและทำยอดขายได้ต่อเนื่องมาโดยตลอด กลับมาคราวนี้ได้เพิ่ม Plus มาต่อท้ายทั้ง 3 รุ่น โดยเรียงจากขนาดเล็กไปขนาดใหญ่ คือ 5S Plus, 5 Plus และ 5X Plus ซึ่งได้เพิ่มคุณสมบัติเด่นๆที่อัพเกรดให้ทันสมัยยิ่งขึ้น อย่างเช่น เล่นเพลงผ่านนาฬิกา/ฟังจากหูฟังบลูทูธโดยตรง, แผนที่สีเต็มรูปแบบ และ รูปทรงที่ดีไซน์ให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์ยิ่งขึ้น
คุณสมบัติเด่น (5S Plus/5 Plus/5X Plus)
Garmin Fenix 5 Plus Series ทั้ง 3 รุ่น ได้เพิ่มคุณสมบัติการฟังเพลงจากนาฬิกาโดยตรง (Music Storage) เก็บเพลงได้สูงสุด 500 เพลง โดยเชื่อมต่อฟังเพลงได้จากหูฟังบลูทูธออกกำลังกาย โดยได้พัฒนาและปรับปรุงเพิ่มขึ้นในรายละเอียดเล็กๆน้อยๆ แต่ยังคงใช้พื้นฐานจาก Garmin Fenix 5 Series เดิมอยู่
- วัดชีพจรผ่านข้อมือตลอด 24 ชั่วโมง
- ฟังเพลงจากนาฬิกาโดยตรง ด้วยหน่วยจำเก็บเพลงถึง 4 GB
- เชื่อมต่อฟังเพลงจากหูฟังบลูทูธออกกำลังกาย
- แสดงผลแผนที่สีสำหรับออกกำลังกาย แบบ TOPO บนหน้าจอนาฬิกาโดยตรง
- ระบบติดตามเส้นทางและความสูงจาก GPS, GLONASS และ Galileo.
- ติดตามกิจกรรมระหว่าง ก้าวเดิน, แคลอรี่, นอนหลับ, ความเครียด ฯลฯ
- กันน้ำได้ลึกสูงสุด 100 เมตร พร้อมโหมด (ว่ายสระ/ว่ายทะเล)
- มาพร้อมโหมดออกกำลังกายมัลติสปอร์ต (ฝึกซ้อม/แข่งขัน) และ โหมดผจญภัย
- สายรูปแบบ QuickFit ระบบการเปลี่ยนสายที่สะดวก ไม่ใช่เครื่องมือ
- วัสดุกระจกหน้าจอแซฟไฟร์ / ปุ่มกดสแตนเลสสตีล
- ฟังก์ชัน FirstBeat ติดตามสถานะฝึกซ้อม, VO2MAX และ สถานะการฟื้นฟู
- รองรับการเชื่อมต่อกับ แอพ Garmin Connect Mobile ผ่าน Wifi และ Bluetooth
- รองรับการเชื่อมอุปกรณ์เสริมออกกำลังกายต่างๆผ่าน ANT+ และ Bluetooth
- หน่วยความจำเก็บข้อมูลการออกกำลังกาย & แผนที่ 16 GB
Fenix 5S Plus เป็นรุ่นที่มีขนาดเล็กที่สุด เหมาะสำหรับผู้ใช้งานข้อมือเล็ก หรือ ผู้หญิงที่ต้องการใช้งานนาฬิกาออกกำลังกายสมรรถนะสูงเพื่อการฝึกซ้อม และ แข่งขัน ดีไซน์และสีสันแฝงไปด้วยความหรูหรากว่าขนาดอื่นๆ
- หน้าปัดขนาด 42 mm
- น้ำหนัก 69 กรัม
- ขนาดหน้าจอ 1.2 นิ้ว ความละเอียด 240 x 240 pixels
- กระจกหน้าจอคุณภาพสูงแซฟไฟร์
- สายขนาด 20mm ในรูปแบบ QuickFit bands
- ใช้งานในโหมดนาฬิกาได้สูงสุด 7 วัน
- ใช้งานโหมด GPS สูงสุด 11 ชั่วโมง
- ใช้งานในโหมด GPS + ฟังเพลง ใช้งานได้สูงสุด 4.5 ชั่วโมง
Fenix 5 Plus รุ่นขนาดกลาง ที่มีขนาดเป็นมาตรฐานสุด จึงเหมาะกับกลุ่มที่ผู้ใช้งานที่หลากหลายที่ต้องการตอบสนองการเพิ่มประสิทธิภาพของการออกกำลังกายแบบก้าวกระโดด ดีไซน์ของสีสันจะออกในแนวเรียบง่าย แต่ยังคงแฝงความสปอร์ต
- หน้าปัดขนาด 47 mm
- น้ำหนัก 87 กรัม
- ขนาดหน้าจอ 1.2 นิ้ว ความละเอียด 240 x 240 pixels
- กระจกหน้าจอคุณภาพสูงแซฟไฟร์
- สายขนาด 22mm ในรูปแบบ QuickFit bands
- ใช้งานในโหมดนาฬิกาได้สูงสุด 12 วัน
- ใช้งานโหมด GPS สูงสุด 18 ชั่วโมง
- ใช้งานในโหมด GPS + ฟังเพลง ใช้งานได้สูงสุด 8 ชั่วโมง
Fenix 5X Plus รุ่นพี่ใหญ่สุดแห่งวงการ มีขนาดใหญ่โตกว่ารุ่นใดๆ แต่มาพร้อมคุณสมบัติที่ไม่เหมือนกับ Fenix 5S Plus และ Fenix 5 Plus ด้วยขนาดตัวเรือนและสายที่ใหญ่และกว้าง จึงเหมาะสมกับผู้ชายที่มีขนาดข้อมือใหญ่พอสวมควร ดีไซน์ออกแบบสมบุกสมบัน หรูหราเรียบง่าย
- PulseOx เซ็นเซอร์วัดชีพจรติดตามระดับค่าออกซิเจน
- หน้าปัดขนาด 51 mm
- น้ำหนัก 96 กรัม
- ขนาดหน้าจอ 1.2 นิ้ว ความละเอียด 240 x 240 pixels
- กระจกหน้าจอคุณภาพสูงแซฟไฟร์
- สายขนาด 26mm ในรูปแบบ QuickFit bands
- ใช้งานในโหมดนาฬิกาได้สูงสุด 20 วัน
- ใช้งานโหมด GPS สูงสุด 32 ชั่วโมง
- ใช้งานในโหมด GPS + ฟังเพลง ใช้งานได้สูงสุด 13 ชั่วโมง
เปรียบ Fenix 5 Plus Series กับ รุ่นเดิมที่ไม่มี Plus (Fenix 5 Series)
ด้วยรูปทรง Fenix 5 Plus Series ออกแบบให้ขอบหน้าปัดมีพื้นที่น้อยลงกว่ารุ่นเดิม แต่ขนาดหน้าปัดและตัวเรือนทั้งหมดยังคงขนาดเท่าเดิม จึงสรุปได้จากการเพิ่ม Plus เข้ามาท้ายรุ่น Fenix 5 เดิม เป็นเพียงการปรับโฉมเล็กน้อยๆ แต่ยังคงได้อัพเกรดคุณสมบัติให้ทันสมัยขึ้น
สรุปคุณสมบัติใหม่ของ Fenix 5 Plus Series
- เพิ่มคุณสมบัติฟังเพลงได้จากนาฬิกาโดยตรง
- Fenix 5S Plus / Fenix 5 Plus สามารถแสดงแผนที่สีเต็มรูปแบบ เหมือนในรุ่น Fenix 5X และ Fenix 5X Plus
- เฉพาะ Fenix 5X Plus เพิ่มเซ็นเซอร์ใหม่ PulseOx วัดระดับออกซิเจนในเลือด ด้วย LED สีแดง
- เพิ่ม GALILEO ระบบนำทางใหม่ จากเดิมมีเพียง GPS และ GLONASS
เปรียบเทียบระยะเวลาใช้งานแบตเตอรี่
เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับ Garmin Fenix 5 Series รุ่นเดิม จะเห็นได้ว่า Fenix 5X Plus สามารถใช้งานได้นานกว่าในทุกๆโหมด แม้ใน UltraTra โหมดประหยัดพลังงานที่อยู่ได้นานสูงสุดถึง 70 ชั่วโมง ส่วน Fenix 5 Plus และ Fenix 5S Plus ประมาณการใช้งานแบตเตอรี่ยังน้อยกว่ารุ่นเดิมอยู่พอสมควร
เจาะลึกคุณสมบัติใหม่ใน Fenix 5 Plus Series
นอกจากคุณสมบัติการออกกำลังกายที่จัดเต็มแบบฉบับ Fenix 5 Series รุ่นเดิมแล้ว ใน Fenix 5 Plus Series นั้นได้เพิ่มคุณสมบัติเด่นๆเข้าไปอีก เพื่อเพิ่มความสามารถให้ครบถ้วนไปยิ่งกว่าเดิม นอกจากขนาดที่แตกต่างกันของทั้ง 3 รุ่น ใน Fenix 5X Plus รุ่นเรือธงสูงสุดมาพร้อมเซ็นเซอร์ PulseOx ไฟ LED สีแดง เพียงรุ่นเดียวเท่านั้น แต่ที่พิเศษสุด ทุกรุ่นของ Fenix 5 Plus Series สามารถแสดงแผนที่สี TOPO เต็มรูปแบบได้แล้ว
ฟังเพลงผ่านนาฬิกา
Fenix 5 Plus Series สามารถเก็บเพลงได้สูงสุด 500 เพลง ในนามสกุล .Mp3 โดยโอนถ่ายเพลงบนคอมพิวเตอร์ ผ่านโปรแกรม Garmin Connect ในขณะออกกำลังกายเมื่อต้องการฟังเพลงที่ได้ถ่ายโอนมา ให้เชื่อมต่อนาฬิกา กับ หูฟังออกกำลังกายบลูทูธ ผ่าน Fenix 5 Plus Series ได้โดยตรง ซึ่งสามารถควบคุมเพลง, เพิ่ม/ลดเสียง ได้อย่างอิสระ แม้ออกกำลังกายอยู่ก็ตาม โดยคุณสมบัติฟังเพลงนี้เหมือนกับ Garmin Forerunner 645 Music ที่ถูกวางจำหน่ายมาก่อน
PulseOx
เฉพาะใน Fenix 5X Plus ได้เพิ่มคุณสมบัติ Pulse Oximetry (PulseOx) เซ็นเซอร์ LED สีแดง เพื่อตรวจสอบข้อมูลชีพจรจากการสูบออกซิเจน ซึ่งเป็นข้อมูลที่สำคัญสำหรับนักกีฬา ซึ่งจะตรวจวัดการดูดซึมฮีโมโกลบินในกระแสเลือด ให้คุณสามารถประเมินระดับออกซิเจนในร่างกาย เพื่อปรับตัวเข้ากับอากาศและระดับความสูงได้อย่างเหมาะสม
แผนที่เต็มรูปแบบสำหรับออกกำลังกาย
ใน Fenix 5 Plus Series ตั้งแต่ Fenix 5S Plus / Fenix 5 Plus/ Fenix 5X Plus สามารถแสดงแผนที่สีแบบ TOPO ได้โดยตรงผ่านหน้าปัดนาฬิกา แสดงให้เห็นถึงสถานที่รอบข้าง จุดสำคัญบนแผนที่ คล้ายๆกับ Google Map ที่ใช้งานกันในปัจจุบัน แต่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า แผนที่ที่อยู่ใน Fenix 5 Plus Series นั้นถูกออกแบบให้ใช้งานร่วมกับการออกกำลังกายเป็นหลัก ซึ่งเหมาะกับการออกกำลังกายกลางแจ้ง หรือ ผจญภัยในที่ที่ไม่คุ้นเคย คุณสมับัติแผนที่มาพร้อมโหมดหาเส้นทางออกกำลังกายแบบอัตโนมัติ, หาสถานที่สำคัญรอบๆตัว หรือ ใช้นำทางในขณะออกกำลังกาย เป็นต้น
ระบบดาวเทียมติดตามเส้นทางแบบใหม่
จากแต่ก่อนในนาฬิกาออกกำลังกาย Garmin ใช้ระบบติดตามเส้นทางระหว่างดาวเทียมเพียง 2 ระบบเท่านั้น นั้นก็คือ GPS และ GLONASS (ระบบดาวเทียมของรัสเซีย) มาใน Fenix 5 Plus Series ได้เพิ่ม GALILEO ให้ได้เลือกใช้งาน ซึ่งเป็นระบบดาวเทียมจากสหรัฐอเมริกา ทั้งหมดนี้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ติดตามเส้นทาง, วัดความเร็ว, และ ระยะทาง แบบผสมผสานได้เอง จากเดิมที่ใช้เพียงระบบ GPS เพียงระบบเดียว (พื้นฐาน) โดยนำระบบ GPS เข้ามาใช้ร่วมกับ GLONASS และ GALILEO จึงทำให้ค่าระยะทาง/เส้นทาง ที่แม่นยำอย่างที่สุด
สรุปกับ Garmin Fenix 5 Plus Series
ด้วยการพัฒนาคุณสมบัติและปรับเปลี่ยนดีไซน์ ถึงไม่ได้เปลี่ยนโฉมและอัพเกรดใหม่ทั้งหมด เพราะยังคงอยู่ในพื้นฐานของ Garmin Fenix 5 Series ที่ต่อยอดประสิทธิภาพให้เต็มขั้น แต่ต้องแลกกับราคาที่เพิ่มขึ้น จึงสรุปได้ว่าถ้าคุณเองไม่ได้ใช้คุณสมบัติที่อัพเกรดขึ้นมา ยังคงเลือกใช้งาน Fenix 5 รุ่นเดิมได้อยู่ โดยยังได้คุณสมบัติการออกกำลังกายที่ครบถ้วน สำหรับคนที่ต้องการคุณสมบัติครบๆเต็มประสิทธิภาพ ทั้งฟังก์ชั่นที่อัดแน่น โดนมีงบไม่จำกัด Fenix 5 Plus Series จึงเป็นคำตอบที่เหมาะสมอย่างที่สุด