1. จอ AMOLED กลับมาแล้ว

หลังจากที่เปิด Suunto 7 (ในปี พ.ศ. 2563) ทาง Suunto ก็ไม่ได้ปล่อยนาฬิกาที่ใช้หน้าจอ AMOLED มาอีกเลย ซึ่งข้อดีของหน้าจอลัษณะนี้ให้สีสันที่สด จัดจ้าน และมีความคมชัดสูง ซึ่งถ้ายุคสมัยหลาย ๆ แบรนด์ก็เริ่มปรับเปลี่ยนไปใช้งานหน้าจอ AMOLED กันหมดแล้ว ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีที่ Suunto Race เลือกใช้ AMOLED อีกครั้ง แต่รอบนี้ไม่ได้ใช้ระบบปฏิบัติการ Android Wear เหมือนใน Suunto 7 แล้ว หันไปกลับระบบของ Suunto เอง คล้ายกับในรุ่น Suunto 9 Peak และ Suunto Vertical ซึ่งข้อดีสามารถใช้งานได้ยาวนาน และใช้งานได้ทั้ง IOS และ Android ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

  • จอแสดงผลรูปแบบ High definition AMOLED screen
  • ความละเอียด 466 x 466 Pixel
  • ความสว่าง 1,000 nits
  • ขนาดหน้าจอ 1,43''
  • ควบคุมด้วยระบบสัมผัสหน้าจอ พร้อมปุ่มกด

ถึงแม้จะเปลี่ยนมาใช้หน้าจอ AMOLED แต่อายุการใช้งานแบตเตอรี่ไม่ได้ถูกลดทอน ใช้ได้ข้าววันแบบเหลือ ๆ ในโหมดปกติใช้ในชีวิตประจำวันสูงสุด 16 วัน และใช้งาน GPS ต่อเนื่องสูงสุด 40 ชม. (ในแบบดีที่สุด)

 

 

2. User Interface รูปแบบใหม่

ถ้าพูดถึงหน้าตาเมนูการใช้งาน Suunto ได้แอบอัพเกรดใหม่อยู่เสมอ ถ้าสังเกตจากรุ่นเริ่มต้นอย่าง Suunto Spartan และค่อย ๆ เพิ่มรายละเอียดใน Suunto 9 Peak จนมาถึงใน Suunto Vertical ในปัจจุบัน แต่ใน Suunto Race เป็นรุ่นที่ได้ User Interface ใหม่ที่สุด เรียกได้ว่าเป็นการอัพเดทให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น เพิ่มลูกเล่นการปรับแต่งได้มากกว่าขึ้นเดิม

  • Mini Widgets รูปแบบใหม่ สามารถเช็คข้อมูลได้รวดเร็ว เห็นเฉพาะข้อมูลที่สำคัญ แล้วจึงกดเข้าไปดูเพิ่มเติม
  • Widgets ดูข้อมูล HRV และดูการฟื้นฟู Recovery HRV
  • Widgets สำหรับการฝึกซ้อม และบนหน้าปัดนาฬิกา
  • Widgets รายงานข้อมูลสำหรับวันใหม่

นอกจากนี้ยังสามารถปรับแต่ง Widgets ได้มากขึ้นกว่าเดิม ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นได้มากกว่ารุ่นก่อน ๆ เช่น หน้าปัด และการใช้งานในโหมดออกกำลังกาย

 

 

3. ปุ่มเม็ดมะยมมาแล้ว

ปุ่มลัษณะนี้จะเรียกว่า Digital Crown และใน Suunto Race เป็นรุ่นเดียวเท่านั้นที่ได้ปุ่มนี้ในตำแหน่งตรงกลาง ข้อดีของปุ่มเม็ดมะยมสามารถหมุนเลื่อนดูได้สะดวกเร็วรวดกว่าการกดปุ่ม และในขณะออกกำลังกายเหงื่อออกเยอะ ๆ มีความแม่นยำสูงกว่าการใช้มือสัมผัสหน้าจอ จากเดิมในรุ่นก่อน ๆ ของ Suunto ปุ่มตรงกลาง จะมีบทบาทแค่กดยืนยัน หรือกดค้างเพื่อย้อนกลับ แต่สำหรับ Suunto Race ปุ่มตรงกลางจะกลายเป็นปุ่มที่ใช้งานมากที่สุด

 

 

4. ติดตามการนอนหลับได้ลึกขึ้น

Suunto Race สามารถแสดงข้อมูลการนอนหลับได้บนหน้าปัดนาฬิกา และที่สำคัญยังเพิ่มฟีเจอร์การตรวจวัดได้มากรุ่นอื่น ๆ ทำให้เห็นภาพรวมของการฟื้นฟูได้เต็มีรูปแบบ

  • รองรับการติดตามในรูปแบบ Sleep Stage เช่น ช่วง REM, หลับลึก และหลับตื้น
  • HRV from sleep ความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจขณะหลับ
  • ค่าเฉลี่ยของอัตราการเต้นของหัวใจ และค่าต่ำสุดระหว่างการนอนหลับ