แบรนด์ Oura ถือว่าเป็นที่สุดของ Smart Ring ในหมวดสุขภาพ ที่มีหลายๆ แบรนด์เปิดตัวตามกันออกมาเพียบ แต่ยังไม่มีแบรนด์ไหนมาตีคู่กับ Oura Ring Generation 3 ที่เพิ่งเปิดตัวรุ่นใหม่ล่าสุดได้ ด้วยความใส่ใจ และพิถีพิถันในทุกๆองค์ประกอบ ทั้งด้านการวิจัยอัลกอริทึม, ดีไซน์, คุณภาพวัสดุ รวมไปถึง User Interface ของแอพพลิชั่นในการใช้งาน ที่ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การใช้งานด้วยข้อมูลที่แม่นยำ พร้อมการแสดงที่เข้าใจ และสวยงามอีกด้วย ซึ่งเห็นว่าเป็นแหวนเล็กๆ แบบนี้ แต่ความสามารถจากที่ได้ลองใช้งานจริงไม่ธรรมดา สรุปง่ายๆมันคือ ฟิตเนสแทรคเกอร์ย่อส่วนมาอยู่ในรูปแบบแหวนใส่นิ้วนั้นเอง
ฟีจเจอร์เด่น
- Sleep, Activity, and Readiness Scores : คะแนนการนอนหลับ บ่งบอกถึงเกณฑ์สุขภาพตามบุคคล
- Calorie Opt-out : เลือกปรับข้อมูลแคลอรี่ให้เหมาะกับไลฟ์สไลต์
- Workout heart rate & insights : ติดตามชีพจรระหว่างออกกำลังกาย และข้อมูลเชิงลึก
- Rest Mode : โหมดพักผ่อน ข้อมูลการจัดความสำคัญเพื่อพักผ่อน และฟื้นฟู
- Automatic Nap & Activity Detection : ตรวจจับการหลับ และกิจกรรม
- Trends : ดูแนวโน้มข้อมูลต่างๆ รายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน
- Tags : ติดแท็ก เพื่อช่วยให้เข้าใจ ถึงกิจกรรม หรือความรู้สึก
- SpO2 Sensing : วัดออกซิเจนในเลือดขณะหลับ
- 24/7 heart rate : ติดตามอัตราการเต้นของหัวใจตลอดทั้งวัน
- Activity Goals : ตั้งเป้าหมายกิจกรรม พร้อมปรับแต่งได้
- Restorative Time : แสดงช่วงเวลาฟื้นฟู เพื่อการผ่อนคลายในแต่ละวัน
- Period Prediction : ติดตามรอบเดือน และคาดการณ์หน้าได้ถึง 30 วัน
- Guided audio sessions : เซสชั่นเสียงกว่า 50 แบบ สำหรับทำสมาธิ นอนหลับ โฟกัส และอีกมากมาย
- Oura stickers : คะแนน และความสำเร็จลงในภาพถ่ายเพื่อแชร์ให้กับเพื่อนๆ
- Activity levels : จำนวนก้าว แคลอรีที่เผาผลาญ เวลาที่ไม่เคลื่อนไหว และอื่นๆ
- Bedtime guidance : คำแนะนำก่อนนอนตามรายบุคคล เพื่อคะแนนการนอนหลับที่ดีที่สุด
- Apple Health & Google Fit : ซิงค์การออกกำลังกายโดยอัตโนมัติ Apple Health และ Google Fit
- App Availability : รองรับ iOS และ Android
ข้อมูลทางเทคนิค
- วัสดุ : ไทเทเนียมทนทานสูง เคลือบ PVD
- ผลิต : Non-Allergenic, Non-Metallic (การขึ้นรูปแบบไร้รอยต่อ)
- ความกว้าง : 7.9 มม.
- ความหนา : 2.55 มม.
- น้ำหนัก : 4 ถึง 6 กรัม (ขึ้นอยู่กับขนาดแหวน) - เบากว่าแหวนทั่วไป
- กันน้ำ : ลึกสูงสุด 100 เมตร (มากกว่า 328 ฟุต)
- แบตเตอรี่ : ใช้งานสูงสุด 7 วัน
- ชาร์จ : เต็มใน 20 ถึง 80 นาที
- เชื่อมต่อ : บลูทูธพลังงานต่ำ (Bluetooth Smart)
- เฟิร์มแวร์ : อัพเดตเฟิร์มแวร์อัตโนมัติผ่านแอพ Oura app
- โหมดเครื่องบิน : EMF-Safe และอนุญาตให้ใช้โหมดเครื่องบิน
อุปกรณ์ในกล่อง
ดีไซน์กล่องมาในโทนขาวล้วน ไม่มีการออกแบบใดๆทั้งสิ้น เหลือไว้เพียงแค่โลโก้แบรนด์ Oura เท่านั้น ดูเรียบง่าย ซึ่งใช้วัสดุเป็นกระดาษส่วนใหญ่ ออกแนวรักโลก และสิ่งแวดล้อม
เมื่อเปิดกล่องออกมา จะพบกับอุปกรณ์ภาย ที่มีแหวน, แท่นชาร์จพร้อมสาย และคู่มือแนะนำการใช้งาน เพียงเท่านั้น ซึ่งพระเอกอยู่นั้นตรงกลางนั้นก็คือ Oura Ring Generation 3 ที่วางบนอยู่แท่นชาร์จนั่นเอง
การชาร์จไฟ
Oura Ring Generation 3 จะไม่มีปุ่มใดๆทั้งสิ้นอยู่บนแหวน และแท่นชาร์จ ลักษณะการชาร์จไฟเพียงวางแหวนให้ถูกตำแหน่งเพียงเท่านั้น บนแท่นชาร์จจะมีไฟแสดงสถานะขึ้นจุดเดียว โดยใช้พอร์ต USB-C ที่เป็นมาตรฐานยุคใหม่
เซ็นเซอร์
ภายใต้แหวนจะมีเซ็นเซอร์ LED ไฟสีเขียว และสีแดง สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจ และออกซิเจนในเลือด พร้อมแผงวงจรขนาดจิ๋วอยู่โดยรอบ ซึ่งถูกดีไซน์ให้กันน้ำได้ สามารถใส่ว่ายน้ำ หรืออาบน้ำได้แบบไร้กังวัล
สวมใส่
แนะนำให้เลือกขนาดของแหวนให้พอดีกับนิ้วที่จะสวมใส่ให้มากที่สุด โดยไม่หลวม หรือแน่นจนเกินจนถอดไม่ได้ ซึ่งมีผลต่อระบบเซ็นเซอร์ในการตรวจวัด ซึ่งการเลือกขนาดก็คล้ายกับการเลือกแหวนทั่วๆไป
เชื่อมต่อ
เมื่อเริ่มต้นใช้งาน Oura Ring Generation 3 มีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก และไม่จำเป็นต้องกดปุ่มใดๆ โดยมีขั้นตอนดังนี้
- ดาวโหลด Oura app จาก Google Play Store หรือ Apple Store
- ลงทะเบียนบัญชีผู้ใช้งานใน Oura app
- เปิดการเชื่อมต่อ Bluetooth ในระบบสมาร์ทโฟน
- นำแหวน Oura Ring Generation 3 วางไว้แบนแท่นชาร์จ
- เลือก Connect ใน Oura app ระบบจะทำการค้นหาอุปกรณ์อัตโนมัติ
- ทำตามระบบ พร้อมอัพเดทเฟิร์มแวร์ให้เป็นเวอร์ชั่นล่าสุด
การใช้งาน Oura app
หน้าตาของ Oura app เมื่อเห็นครั้งแรก อาจจะมองว่าดูยาก หรือซับซ้อน แต่จริงๆเมื่อใช้งานไปสักพัก และเข้ามาเช็คข้อมูลสุขภาพ จะพบกับการแสดงข้อมูลที่เรียบง่าย และเป็นข้อมูลที่มีประโยชน์ทั้งนั้น พร้อมรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ Oura ได้ใส่ใจลงไป อย่างเช่น การเข้าไปเช็คกราฟข้อมูลอัตราการเต้นของหัวใจ เมื่อเราเอานิ้วไปแตะข้างไว้ในช่วงนั้นๆ สมาร์ทโฟนเราจะสั่นตามจังหวะชีพจรในข่วงที่เราเอานิ้วไปเตะไว้ นอกจากนี้ตัวแอพยังให้ข้อมูลในเชิงคำแนะนำ พร้อมข้อมูลสรุปที่เข้าใจได้ง่าย ซึ่งใช้คำศัพท์ พร้อมไอคอมที่บ่งบอกข้อมูลให้เราเข้าใจได้ทันที
ติดตามการนอนหลับ
ก่อนจะเล่าถึงเรื่องการติดตามนอนหลับของ Oura Ring Generation 3 จากประสบการณ์ที่ต้องใส่นาฬิกาออกกำลังกาย หรือสายรัดข้อมือวัดชีพจร จะรู้สึกถึงความไม่สบายต่อข้อมือ ในขณะพลิกตัว หรือไม่อิสระขณะนอนหลับ แต่เมื่อมาสวมใส่ในรูปแบบแหวน พอถึงเวลาหลับแทบไม่รู้สึกว่าแกะกะ หรืออึดอัดอีกต่อไป บางครั้งลืมไปว่าตัวเองใส่แหวนไว้ที่นิ้ว ซึ่งแหวน Oura Ring Generation 3 จะตรวจจับการนอนหลับให้อัตโนมัติ เพียงแต่ใส่ไวเท่านั้น แม้แต่งีบในช่วงเวลา 30 นาที ระบบจะตรวจจับให้อัตโนมัติ
ตัวอย่างของข้อมูลการนอนหลับใน Oura app เมื่อสวมใส่แล้วนำมาซิงค์ในช่วงที่ตื่นนอนแล้ว จะถูกแบ่งออกตามนี้
- กราฟข้อมูลตั้งแต่ช่วงก่อนหลับ ถึงตื่นนอน (ตื่น, REM, Light และหลับลึก)
- ข้อมูลสรุป ระยะเวลานอนทั้งหมด, เวลาที่อยู่บนที่นอน, ประสิทธิภาพการนอน และ RHR
- คะแนนการนอนหลับ 0 - 100 (ยิ่งจำนวนเลขเยอะ คุณการนอนยิ่งดี)
- Sleep Contributors
- ระยะเวลานอนทั้งหมด
- ประสิทธิภาพ
- การพักผ่อน
- เวลา REM Sleep
- เวลาหลับลึก
- เวลาที่ตอบสนอง
- ช่วงเวลาการนอน
- ข้อมูลกราฟรายละเอียดการนอน แบ่งตามช่วงเวลา
- การเคลื่อนไหวขณะหลับ
- กราฟแท่ง ปริมาณการนอนแต่ละช่วง พร้อมเปอร์เซ็นต์
- Lowest Heart Rate กราฟพร้อมค่าเฉลี่ย
- HRV กราฟพร้อมค่าเฉลี่ย
- และเมื่ออัพเดทเป็นเฟิร์มแวร์ล่าสุด จะได้ข้อมูลค่าเปอร์เซ็นต์ของค่าเฉลี่ยนออกซิเจนขณะหลับ และข้อมูลการหายใจ
หลังจากที่ได้ใส่ Oura Ring Generation 3 นอนหลับ พอได้มาดูข้อมูลในวันรุ่งขึ้น ได้ข้อมูลที่ครบถ้วน อย่างเช่น เวลาที่หลับ และช่วงที่ตื่นนอน ที่ถือว่ามีความแม่นยำสูง พร้อมทำให้ตัวเราเองเข้าใจร่างกายได้ง่ายเมื่อเราหลับอยู่เช่น ช่วงเวลานี้เราพลิกตัวบ่อย หรือใช้เวลานอนน้อยเกิน ทำให้ร่างกายไม่พร้อมทำกิจกรรมอื่นๆ
กิจกรรม
เราสามารถเห็นภาพรวมของการเคลื่อนไหวในแต่ละได้ง่ายขึ้น ด้วยกราฟแท่นที่อยู่ด้านบนสุด ที่ถูกแบ่งออกเป็น 3 ความเข้นข้น พร้อมเป้าหมาย, แคลอรี่ที่เผาผลาญ, ระยะเทียบเท่าทางการเดิน และก้าวเดิน และข้อมูลด้านล่างที่จะคอยรายงานให้ทราบถึงความเหมาะสม เช่น เคลื่อนไหวน้อยเกินไประหว่างวัน ระบบขึ้นกราฟเป็นสีแดง แจ้งให้ทราบว่าควรเคลื่อนไหวมากขึ้น
เท่านั้นยังไม่พอ เมื่อเลื่อนลงมาจะพบกับกราฟตามช่วงเวลาของการเคลื่อนทำกิจกรรม โดยจะแจ้งเราว่าได้เคลื่อนด้วยความเข้นข้นเป็นเวลาเท่าไหร่บ้าง อีกทั้งยังเก็บข้อมูลแยกออกมาในโหมดกีฬา เช่น วิ่ง, จักรยาน โดยเราต้องเป็นผู้กำหนดช่วงนั้นเองให้เป็นการออกกำลังกาย หรือตัวแอพแนะนำขึ้นมาให้ด้วยอัลกอริทึม โดยเราไม่ต้องกดปุ่มอะไรเลย
ผ่อนคลาย
ระหว่างวัน ถ้าพบกับความตึงเครียด ต้องการความสงบ หรือนอนหลับยาก สามารถเข้ามาใช้งานในเมนู Explore เพื่อทำสมาธิ ฝึกลมหายใจ โดยจะมี Session ตามช่วงเวลาให้เราได้โฟกัสเพื่อรับความผ่อนคลายความตึงเครียด
อุณหภูมิร่างกาย
ผู้ใช้งาน Oura Ring Generation 3 ได้รับการอัพเดทเฟิร์มแวร์ใหม่เพิ่มขึ้นหลังจากช่วงแรก ซึ่งจะได้การติดตามอุณหภูมิร่างกายผิวหนังเพิ่มขึ้น ที่ช่วยสังเกตเฝ้าระวังไข้หวัดได้ สามารถติด Tag ถึงอาการต่างๆเพื่อเป็นข้อมูลย้อนหลังได้มากมาย และ Recovery Index ทำให้เราเห็นภาพรวมของการพักผ่อนได้ง่าย เพื่อตรวจพร้อมรับมือการสถานการณ์ต่างๆ หรือควรพักผ่อนให้เพียงพอก่อน
ทำนายรอบเดือน
ใช้ข้อมูลอุณหภูมิของร่างกาย เพื่อคาดการณ์ช่วงเวลาในแต่ละเดือน เพื่อติดตามรอบเดือน และคาดการณ์ล่วงหน้าได้ถึง 30 วัน
แบตเตอรี่
ทดลองใช้งาน Oura Ring Generation 3 จริง โดยสวมใส่ตลอดเวลาจากการชาร์จเต็ม 100% จนเหลือ 0% ใช้ระยะเวลาประมาณ 6-7 วัน ถือว่าแบตเตอรี่อึดจริงๆ กับการที่เป็นแหวนขนาดเล็ก แต่สู้กับสายรัดข้อมือ หรือนาฬิกาออกกำลังกายที่มีขนาดใหญ่กว่ามากได้ ทั้งนี้ปริมาณแบตเตอรี่ขึ้นอยู่การใช้งานด้วย เช่น การซิงค์ดูข้อมูลบ่อย หรือทำกิจกรรมอยู่เวลา
จากการที่ได้ใส่ และสังเกตระบบเซ็นเซอร์ พบว่าแสงไฟที่ตรวจจับข้อมูลผิวหนัง ไม่ได้ทำงานตลอดเวลา แต่จะเป็นไปตามอัลกอริทึม หรือตรวจจับการเคลื่อนไหว เพื่อให้ได้ระยะเวลาแบตเตอรี่นานที่สุด แต่ยังคงได้ข้อมูลที่แม่นยำอยู่เสมอ
สรุป
ก่อนจบรีวิวนี้ ต้องแจ้งให้ทราบไว้ก่อนว่า Oura Ring Generation 3 จะแถม Oura Membership ให้เราได้ใช้งานฟรีในช่วงแรก หลังจากนั้นจะเก็บค่าสมาชิก ถ้าว่ายอมรับได้ไหม หลังจากที่ได้ใช้ลองใช้งานงานสักระยะ ทาง Oura app ทำให้ติดใจกับ User Interface ถึงแม้ไม่ได้เข้าไปเช็คทั้งวันก็ตาม แต่ด้วยการออกแบบทำให้เราไม่จำเป็นต้องเข้าไปดูบ่อยๆ แต่เข้าครั้งเดียวเราสามารถเข้าใจร่างกาย และสุขภาพได้ง่าย ดังนั้นคนที่กำลังสนใจแหวนรุ่นนี้ต้องถามตัวเองก่อน ว่ากำลังต้องการหาแทรคเกอร์วัดสุขภาพ และได้เทคโนโลยีที่ถูกย่อส่วนมาอยู่บนนิ้วในรูปแบบนี้ไหม เพราะด้วยราคาที่ค่อนข้างสูง บวกกับค่าสมาชิก แต่ก็แลกมาด้วยความสะดวกสบาย และข้อมูลสุขภาพที่ติดตามตัวเราเองได้ตลอดเวลา