Vivomove Sport ฉีกทุกรูปแบบของสมาร์ทวอทช์ในปัจจุบัน ด้วยการคงไว้ของเข็มนาฬิกาจริงๆในสไตล์คลาสสิค ผสมผสานด้วยหน้าจอดิจิตอลที่อยู่ภายใต้หน้าปัด สำหรับการแสดงข้อมูลสุขภาพในชีวิตประจำวัน หรือการติดตามออกกำลังกายในช่วงเวลาที่ต้องการฟิตหุ่น รีวิวนี้มาดูกันว่าดีไซน์แบบนี้จะสามารถทำอะไรได้บ้าง?

 

 

Garmin Vivomove Sport มีให้เลือกถึง 4 สี โดยแต่ล่ะสีบ่งบอกถึงสไตล์ได้ชัดเจน โดยเน้นโทนสีที่ไม่ฉูดฉาด สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัว โดยแทบไม่รู้เลยว่านี้คือสมาร์ทวอทช์สุขภาพ

  • ดำ (Black)
  • มิ้นต์ (Cool Mint)
  • น้ำตาล (Cocoa)
  • ครีม (Ivory)

 

สเปคของ Garmin Vivomove Sport ถือว่าไม่ธรรมดา ที่ได้ถูกอัพเกรดจากรุ่นเดิมอย่าง Vivomove 3 และนำปรับเปลี่ยนดีไซน์เล็กน้อย

  • ขนาดตัวเรือน : 40 x 40 x 11.0 มม.
  • รองรับข้อมือ : เส้นรอบวง 125-190 มม.
  • น้ำหนัก : 33.8 กรัม
  • รองรับสาย : 20 มม.
  • กันน้ำ : สูงสุด 50 เมตร
  • แบตเตอรี่ : สูงสุด 5 วัน

 

 

ความพิเศษของ Vivomove Sport ที่ไม่เหมือนกับนาฬิกา Garmin รุ่นอื่นๆอยู่ที่การซ่อนแผงหน้าจอดิจิตอลขนาดเล็กไว้ใต้หน้าปัด โดยใช้เข็มนาฬิกาจริงอยู่ด้านบน ย้ำว่าเข็มหน้าจริงๆ ไม่ใช่การแสดงผลของหน้าจอดิจิตอลเป็นเข็มหน้าแต่อย่างไร ซึ่งเข็มนาฬิกานี้ได้ถูกคิดมาแล้ว สามารถเลื่อนหลบหน้าจอดิจิตอลเมื่อพลิกข้อมือขึ้นมา หรือสัมผัสหน้าจอเพื่อแสดงข้อมูลได้อย่างชัดเจน

  • รูปแบบการแสดงผล : OLED
  • ควบคุม : ระบบสัมผัส
  • ขนาดจอแสดงผล (ดิจิตอล) : 8.6 x 18.5 มม.
  • ความละเอียด : 72 x 154 พิกเซล

 

 

ใช้งานในชีวิตประจำวัน

Vivomove Sport เหมาะกับคนที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ไว้ติดตามสุขภาพ ที่สวมใส่ได้ทุกวันและกลมกลืนกับไลฟ์สไตล์ โดยไม่ได้เน้นฟังก์ชั่นกีฬาที่ลงลึก เพราะรุ่นนี้ออกมาเน้นเรื่องสุขภาพ และฟิตเนสมากกว่า ที่สำคัญใช้งานง่าย เมนูการใช้งานไม่ซับซ้อน

 

การแสดงผลสุขภาพ

  • อัตราการเต้นของหัวใจที่ข้อมือ
  • อัตราการเต้นของหัวใจขณะพักประจำวัน    
  • เตือนอัตราการเต้นของหัวใจผิดปกติ (สูงและต่ำ)
  • อัตราการหายใจ
  • ออกซิเจนในเลือดจากชีพจร
  • อายุสุขภาพ (Fitness Age) แสดงผลในแอพ
  • ตรวจสอบพลังงาน (Body Battery)
  • ติดตามความเครียดตลอดวัน    
  • เตือนเพื่อพักผ่อน    
  • ตั้งเวลาผ่อนคลายด้วยการหายใจ    
  • ติดตามการนอนขั้นสูง
  • บันทึกการดื่มน้ำ    
  • ติดตามสุขภาพของผู้หญิง

 

อื่นๆ

  • เวลา/วันที่    
  • ปรับเวลาอัตโนมัติ    
  • นาฬิกาปลุก    
  • ตัวนับเวลา    
  • นาฬิกาจับเวลา    
  • ปฏิทิน    
  • สภาพอากาศ    
  • ควบคุมเพลงบนสมาร์ทโฟน    
  • ค้นหาโทรศัพท์ของฉัน    
  • ค้นหานาฬิกาของฉัน    
  • ใช้งานร่วมกับ Garmin Connect app ( IOS , Android )

 

 

วัดชีพจรที่ข้อมือ

เพียงแค่สวมใส่ไว้ที่ข้อมือเฉยๆ Vivomove Sport จะติดตามอัตราการเต้นของหัวใจให้อัตโนมัติ พร้อมแสดงค่าเฉลี่ยชีพจรขณะพัก (RHR), ดูกราฟย้อนหลัง 1 ชั่วโมง พร้อมค่าชีพจรสูงและต่ำ

 

 

Body Battery

สำหรับฟังก์ชั่น Body Battery มีอยู่ในนาฬิการุ่นใหม่ๆของ Garmin แทบทุกรุ่น เพื่อตรวจวัดพลังงานของร่างกาย เมื่อเราหลับเต็มอิ่มตื่นมาร่างกายเราจะมี Body Battery 100 แต่ในระหว่างวัน ถ้ามีการใช้งานพลังงานเยอะ หรือเครียด จำนวน Body Battery จะถูกลดลง เราสามารถนำค่าเหล่านี้ไปประเมินก่อนทำกิจกรรมออกกำลังกาย เพื่อดูว่าร่างกายพร้อมแค่ไหน

 

 

วัดความเครียด

ติดตามสภาวะความเครียด โดยวัดจากค่า “ความแปรปรวนของอัตราการเต้นหัวใจ” (Heart Rate Variability) เช่น ถ้าระบบประสาททำงานหนัก > ความตึงเครียดสูง > ค่า HRV สูง หรือ ถ้าระบบประสาททำงานไม่หนัก > ความเครียดต่ำ > ค่า HRV ต่ำ

โดยแบ่งช่วงใช้คำนวณความเครียด ออกเป็น 0 – 100 เพื่อให้เข้าใจได้ง่าย

  • 0  หมายถึง ความเครียดน้อยที่สุด
  • 100  หมายถึง ความครียดมากที่สุด

 

 

แจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน

อีกหนึ่งฟังก์ชั่นสมาร์ท ที่สามารถเตือนข้อความสำคัญๆจากสมาร์ทโฟน เพียงแค่พลิกข้อมือขึ้นมาแทนการหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมา และยังรองรับการตอบข้อความ หรือ ปฏิเสธสายเรียกเข้าด้วยข้อความ (เฉพาะ Android เท่านั้น)

 

 

วัดออกซิเจนในเลือด

สำหรับ Vivomove Sport จะมีเมนูวัดออกซิเจนในเลือด (Pulse Ox) แยกออกมาจากการแสดงผลในชีวิตประจำวันเพื่อวัดข้อมูลนี้โดยเฉพาะ รองรับการตรวจสอบเฉพาะ, เลือกตลอดวัน และขณะหลับ

 

 

ความปลอดภัย

แนะนำให้ลองเปิดใช้งานไว้ "ตรวจจับเหตุฉุกเฉิน" เผื่อเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น (ต้องมีสมาร์ทโฟนอยู่ใกล้ๆ) เพื่อส่งข้อความพร้อมตำแหน่งไปยังผู้ติดต่อที่ตั้งไว้

 

 

โหมดออกกำลังกาย

สำหรับคนที่คาดหวังโหมดออกกำลังกายใน Vivomove Sport จะจัดเต็ม หรือแสดงผลข้อมูลเยอะๆ เหมือนกับรุ่นอื่นๆของ Garmin บอกเลยว่ารุ่นไม่ใช่ เพราะด้วยสไตล์นาฬิกาไม่ออกแบบมาให้ใช้ออกกำลังกายจริงจัง แต่ไว้สำหรับดูข้อมูลติดตามพื้นฐานที่เข้าใจง่าย สำหรับการเข้าสู่โหมดออกกำลังกาย เพียงแตะหน้าปัดนาฬิกาค้างไว้เท่านั้น

โหมดออกกำลังกายมีอะไรบ้าง ?

  • วิ่ง วิ่งบนสายพาน
  • ปั่นจักรยาน
  • ว่ายน้ำในสระ (ขั้นพื้นฐาน)
  • ยกเวท คาร์ดิโอ
  • อีลิปติคอล
  • ฝึกหายใจ
  • พิลาทิส โยคะ

 

 

GPS

Vivomove Sport รุ่นนี้จะไม่มี GPS ในตัวเรือน สำหรับติดตามการออกกำลังกายกลางแจ้งเท่านั้น โดยสามารถใช้งานร่วมกับ GPS ของสมาร์ทโฟน แต่ต้องพกสมาร์ทโฟนติดตัวไปด้วยขณะออกกำลังกาย ทั้งนี้ความแม่นยำของ GPS ขึ้นอยู่กับรุ่นของสมาร์ทโฟน และตำแหน่งการวางของสมาร์ทโฟน ดังนั้นคนที่เน้นสาย Outdoor วิ่งหรือปั่นจักรยานกลางแจ้งบ่อยๆอาจจะไม่เหมาะกับรุ่นนี้ แต่จะไปตอบโจทย์สายสุขภาพ หรือฟิตเนสมากกว่า

 

 

สรุป

ความเรียบง่ายแต่สมาร์ท Vivomove Sport คือคำตอบ ใครกำลังมองหานาฬิกาสุขภาพสักเรือนไว้ใส่แทนนาฬิกาทั่วๆไปเรือนนี้ถือว่าเหมาะสม แต่ใครที่คาดหวังฟังก์ชั่น GPS หรือโหมดกีฬา อาจจะไม่เหมาะด้วยดีไซน์อันแสนคลาสสิคที่ไม่ได้ออกแบบมาใช้งานแบบสมบุกสมบัน หรือเอาไปวิ่งกลางแจ้งที่คาดหวังระยะทางแม่นๆ