การวิ่งในยุคสมัยนี้ไม่จำเป็นต้องออกเดินทางให้เสียเวลา หรือวิ่งอยู่ในพื้นที่เสี่ยง เพียงเปลี่ยนวิธีการวิ่งแบบเดิมๆมาเป็น Virtual Run ที่ทำให้ใช้เวลาได้อย่างคุ้มค่า ไม่เสียเวลาไปกลับรถติด หรือรอให้ครบแก๊งค์อีกต่อไป สำหรับ Virtual Run คือ การออกกำลังกายที่จำลองสนาม หรือการแข่ง ให้ตัวเราได้เข้าอยู่ในพื้นที่แบบเสมือนจริง โดยสามารถร่วมแข่งขันได้คนทั่วโลกได้อิสระ ที่สำคัญช่วยทำให้การออกกำลังกายอยู่ที่บ้านคนเดียวมีแรงจูงใจ และท้าทายมากยิ่งขึ้น
ใช้งาน ZWIFT app ร่วมกับลู่วิ่งดียังไง?
ZWIFT app เปิดให้ดาวโหลดได้ทั้ง App Store และ Play Store ด้วย User interface ที่เข้าใจง่าย โดยถ้าใช้งาน ZWIFT app ได้เต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีอุปกรณ์เชื่อมต่อกับแอพ อย่างเช่น ลู่วิ่ง Core-Fitness รุ่น ZWIFT Versio สามารถเชื่อมต่อใช้งานวิ่งกับ ZWIFT app ได้ทันที โดยไม่ต้องมีอุปกรณ์อื่นเพิ่มเติม
จริงๆแล้วข้อดีของการใช้งาน ZWIFT app ร่วมกับลู่วิ่งมีมากมายหลายข้อ แต่เราได้สรุป 3 ข้อสำคัญกับ 3 กลุ่มผู้ใช้งาน ดังนี้
- สร้างเป้าหมายของการฝึกซ้อม เพิ่มขึดจำจัดเพื่อฝึกซ้อมให้แข็งแกร่งมากขึ้น พร้อมแรงกระตุ้นจากนักแข่งทั่วโลกในสนาม
- อยากออกกำลังกายมากขึ้น เห็นท่าทางการวิ่งพร้อมทิวทัศน์ ทำให้ไม่น่าเบื่อ และทำให้เวลาในการออกกำลังกายผ่านไปอย่างรวดเร็ว
- ปลอดภัย หลีกเลี่ยงจากฝุ่น เชื้อโรค ออกกำลังกายอยู่ที่บ้านสร้างสุขภาพให้ความแข็งแรง พร้อมรับรางวัล Rewards ต่างๆในการแข่งขัน
เตรียมตัวใช้งาน ZWIFT กับลู่วิ่ง
ด้วยเทคโนโลยีในลู่วิ่ง Core-Fitness มาพร้อมกับ ZWIFT ในตัวลู่วิ่ง จึงไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์เสริมเพิ่มเติม และสามารถใช้งานได้ทั้งครอบครัว ไม่ต้องสลับเปลี่ยนอุปกรณ์เสริมอีกต่อไป
- เลือกใช้งาน สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต, โน๊ตบุ๊ค ที่สามารถดาวโหลดและติดตั้ง ZWIFT app ได้ และรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth เพื่อแสดงผลการออกกำลังกายได้อย่างครบถ้วน
- ลู่วิ่งที่รองรับ ZWIFT app อย่างเช่น Real Run, Fit Run หรือลู่วิ่งในแบรนด์ Core-Fitness
สรุปง่ายๆ เมื่อคุณมีอุปกรณ์เพียง 2 อย่าง สมาร์ทโฟนที่มี ZWIFT app และลู่วิ่งที่รองรับ ZWIFT เท่านี้ก็พร้อมออกกำลังกายแบบเสมือนจริงกับคนทั้งโลกได้แล้ว
วิธีใช้งาน ZWIFT app กับลู่วิ่ง
ขั้นตอนแรกขอแนะนำให้ดาวโหลดและติดตั้ง ZWIFT app ลงอุปกรณ์ สมาร์ทโฟน, แท็บเล็ต พร้อมลงทะเบียนให้เรียบร้อย
ช่องทางดาวโหลด ZWIFT app
*สำหรับ Windows และ Mac อุปกรณ์คอมพิวเตอร์ต้องรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
เริ่มต้นใช้งาน
- เปิด "บลูทูธ" ในระบบ และเข้า ZWIFT app เลือกหัวข้อ " Run"
- เลือก " Run Speed " เพื่อเริ่มการเชื่อมต่อใช้งาน
เชื่อมต่อกับลู่วิ่ง
- เมื่อเลือก " Run Speed " แล้ว ZWIFT app จะทำการค้นหาลู่วิ่ง ในรูปตัวอย่าง "ค้นหาพบลู่วิ่ง Real Run Zwift Version"
- กดเลือก " OK " เพื่อยืนยันการเชื่อมต่อ
- หลังจากเชื่อมต่อกับลู่วิ่งในหัวข้อ " Run Speed " สำเร็จ จะขึ้นเครื่องหมายติ๊กถูกพร้อมคำว่า Connected
- ให้กลับมาที่แผงหน้าจอของลู่วิ่ง Real Run โดยกดปุ่ม " Start " เพื่อให้หน้าจอแสดงสัญลักษณ์ " Bluetooth "
เชื่อมต่อสายคาดอกวัดชีพจร
กรณีที่ต้องการวัดชีพจรเพื่อติดตามความหนัก/เบาของการออกกำลังกาย จะต้องมีอุปกรณ์เสริมอย่างสายคาดหน้าอกวัดชีพจรที่รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
- สวมใส่อุปกรณ์วัดชีพจรกับร่างกาย และเลือก " Heart Rate"
- ZWIFT app จะทำการค้นหาอุปกรณ์วัดชีพจร ในรูปตัวอย่าง "ค้นหาพบ สายคาดอกวัดชีพจร Monit RealTime7 " และเลือก " OK "
เตรียมตัวออกกำลังกาย
เมื่อเราทำขั้นตอนการเชื่อมต่อสำเร็จจะมาถึงหน้าสุดท้ายเพื่อเลือกสนามแข่ง, โปรแกรมฝึก และร่วมแข่งขัน
- World Choice : เลือกสนาม และเส้นทางที่ต้องการใช้งาน
- Run Type : เลือกโปรแกรมฝึกซ้อม หรือเพิ่มความเข้นข้นของการออกกำลังกาย
- Join Another Zwifter : ร่วมแข่งขันกับ Zwifter เพื่อกระตุ้นให้เข้าถึงเส้นชัย
กด " Run " เพื่อเข้าสู่สนาม
เริ่มวิ่ง
ระหว่างที่เราออกกำลังกายจะเสมือนเข้าไปอยู่ในสนามแข่งจริงๆ พร้อมกับคนทั้งโลกที่ใช้งาน Zwift app อยู่ และเมื่อตัวเรามีการเคลื่อนไหวอย่างการเดิน หรือวิ่ง ตัวละครของเราจะเคลื่อนไหวตาม โดยรอบๆหน้าจอ Zwift app จะมีสถิติแสดงผลให้ทราบแบบ Real Time ดังต่อไปนี้
- อัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมแสดงโซน (เมื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์)
- แคลอรี่
- ความเร็ว
- ระยะเวลา
- Avg Pace
- แผนที่เส้นทาง
- ไอคอนเลือกเป้าหมาย
- สถิติเวลาของผู้คนในสนาม
สรุป
วิธีใช้งาน ZWIFT app กับลู่วิ่ง Core-Fitness วิ่งเสมือนจริงแบบ Virtual Run ไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป แต่กลับกลายเป็นทางเลือกให้หันมาออกกำลังกายเพื่อสุขภาพในรูปแบบสนุกสนาน เพลิดเพลินมากยิ่งขึ้น อีกทั้งทำให้การฝึกซ้อมเป็นไปอย่างต่อเนื่องไม่ถูกจำกัดสถานที่อีกต่อไป ด้วยเทคโนโลยีเพื่อการออกกำลังกายอย่างแท้จริง