สมาร์ทวอทช์สายออกกำลังกาย ทุกวันนี้มีหลากหลายรุ่น ทั้งแบรนด์ใหม่ หรือ แบรนด์ที่เริ่มหันมาผลิตสมาร์ทวอทช์เป็นของตัวเอง แต่วันนี้ TSMACTIVE จะพาไปรู้จัก 5 สมาร์ทวอทช์สายออกกำลังกายอย่างแท้จริง ซึ่งเป็นที่รู้จักในวงการออกกำลังกาย และ นักกีฬา จะแตกต่างกับสมาร์ทวอทช์แบรนด์อื่นทั่วๆไป ที่เน้นใช้งานเฉพาะชีวิตประจำวันเท่านั้น เช่น ดูการแจ้งเตือน หรือใช้งานร่วมกับสมาร์ทโฟน

 

Fitbit Versa 2

สั่งซื้อ Fitbit Versa 2 (ประกันศูนย์ไทย 1 ปี)

เริ่มที่เรือนแรก ต้องยกให้กับ Fitbit Versa 2 รุ่นที่ถ่ายทอดเอกลักษณ์ของแบรนด์ Fitbit ได้ชัดเจนที่สุด ทั้งดีไซน์ที่คงความหรูหรา วัสดุพรีเมี่ยม บวกกับคุณสมบัติที่ตอบโจทย์คนรักสุขภาพ และ ออกกำลังกายในฟิตเนส อย่างครบครัน สำหรับสาวๆที่กำลังมองหาสมาร์ทวอทช์ฟิตเนส ใส่ทำงานได้ หรือใส่ออกกำลังกายก็ดี Fitbit Versa 2 แทบจะเหมาะสมที่สุดแล้ว

จุดที่ทำคนหลงรัก Fitbit Versa 2 และยอมเลือกใช้งาน ไม่เพียงที่ดีไซน์เท่านั้น ซึ่งก็แอบไปคล้ายกับ Apple Watach อยู่เหมือนกัน แต่หัวใจหลักของคนใช้งานรุ่นนี้ อยู่ที่การติดตามสุขภาพแม่นยำตลอด 24 ชั่วโมง และ User Interface เอาใจคนที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย หรือ ดูแลสุขภาพ นั้นเอง 

ข้อดี

  • ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่
  • แสดงข้อมูลสุขภาพได้ครบถ้วน
  • ระบบสัมผัสหน้าจอที่ตอบสนองไว
  • หน้าจอสี มีความคมชัดสูง
  • ตัวเรือนขนาดกระทัดรัด

ข้อด้อย

  • ยังไม่มีระบบ GPS สำหรับกิจกรรมกลางแจ้ง
  • การปรับแต่งน้อย ต้องทำใน Fitbit app บนสมาร์ทโฟน
  • ขนาดไม่เหมาะกับคนข้อมือใหญ่

สำหรับสาวๆออฟฟิต ที่หลังเลิกงานชอบเข้าฟิตเนสเพื่อเข้าคลาสต่างๆเป็นประจำ แนะนำ Fitbit Versa 2 เรือนเดียวใส่ได้ตลอดทั้งวัน ลงตัวทุกการสวมใส่ อีกทั้งได้ลุคสาวรักสุขภาพ และ สาวฟิตเนส ที่ใครๆเห็นต้องถามว่าใส่นาฬิการุ่นอะไรอย่างแน่นอน

 

Garmin Vivoactive 4

สั่งซื้อ Garmin Vivoactive 4 (ประกันศูนย์ไทย 1 ปี)

ม้ามืดแห่งแบรนด์ Garmin นั่นก็คือ Vivoactive 4 นั่นเอง ซึ่งได้เปิดตัวพร้อมกับ VENU ทั้ง 2 รุ่นนี้ เปิดโฉมใหม่ให้กับ วงการสมาร์ทวอทช์ GPS สายออกกำลังกาย ด้วยการปรับเปลี่ยนคุณสมบัติให้ทันยุคสมัยมากขึ้น แต่ที่ยกให้ Vivoactive 4 ด้วยราคาที่ถูกกว่า 1 พันบาท และคุณสมบัติที่เหมือนกัน เพียงแต่ไม่ใช่หน้าจอ AMOLED เท่านั้นเอง โดยรวมของการใช้งาน, ลักษณะการควบคุม และความลื่นไหล ยังเชื่อใจ Vivoactive 4 ได้มากกว่า VENU อาจเป็นเพราะครั้งแรกของ Garmin ที่เริ่มใช้หน้าจอ AMOLED ให้กับรุ่น VENU

ข้อดี

  • มีระบบ GPS ใช้งานได้ทั้งกิจกรรม กลางแจ้ง & ฟิตเนส
  • มีหน่วยความจำเก็บเพลง ฟังเพลงโดยไม่ต้องพกสมาร์ทโฟน
  • ฟังก์ชั่นติดตามสุขภาพทันสมัย ใช้งานได้จริง
  • ควบคุมง่าย ขนาดตัวเรือนมาตรฐาน/ใหญ่

ข้อด้อย

  • ยังคงเป็นหน้าจอแบบเดิม (MIP) เป็นรองหน้าจอ VENU
  • ไม่เหมาะกับคนที่ข้อมือเล็ก

จริงๆแล้ว ก็ต้องยอมรับว่าหน้าจอของ Vivoactive 4 เป็นรองกับ VENU อยู่ประมาณ 40% แต่หน้าจอ Vivoactive 4 ที่ใช้อยู่เป็นประเภท (MIP) ซึ่งนาฬิกา Garmin รุ่นปัจจุบันที่ผ่านมา ก็ยังเลือกใช้งานอยู่ บวกกับความเสถียรของการควบคุม ด้วยการสัมผัสที่ตอบสนองได้ดีเยี่ยม จึงเป็นตัวเลือกสำหรับคนที่อยากออกกำลังกาย ด้วยการใส่สมาร์ทวอทช์ GPS ที่มาพร้อมฟังก์ชั่นครอบจักรวาลในราคาหมื่นต้นๆ

 

Suunto 5

สั่งซื้อ Suunto 5 (รับประกันศูนย์ไทย 2 ปี)

มาที่แบรนด์ Suunto กันบ้าง ในปี 2019 ได้เปิดตัว Suunto 5 ไม้เด็ด ไม้สุดท้าย ของ Suunto หลังจากก่อนหน้านี้ ในตระกูล Spartan ที่เปิดฉากให้กับ นาฬิกา GPS มัลติสปอร์ตสายพันธ์นักกีฬา และ สร้างความฮือฮาแห่งวงการวิ่งเทรล โดย Suunto 5 เป็นนาฬิการุ่นกลาง ที่ดึงความเป็นนาฬิกากีฬาระดับสูงอย่าง Suunto 9 เข้ามา และ เสริมทัพด้วยฟังก์ชั่นสุขภาพ & ฟิตเนส จาก Suunto 3 Fitness จึงปฏิเสธไม่ได้ว่า Suunto 5 เป็นนาฬิกาเพียงรุ่นเดียวของ Suunto ที่ตอบโจทย์การใช้งานตั้งแต่เริ่มต้น จนไปถึงการแข่งขันอย่างจริง

ข้อดี

  • ขนาดคอมแพค กระทัดรัด 
  • คัดเฉพาะฟังก์ชั่นที่จำเป็น ได้ใช้งานจริง
  • โหมดกีฬากว่า 80 ชนิด ในระดับแข่งขัน
  • เฟิร์มแวร์ที่เป็นมาตรฐาน ใกล้เคียงกับ Suunto 9
  • วัสดุที่แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เชื่อใจได้

ข้อด้อย

  • การเปลี่ยนสาย ต้องใช้เครื่องมือ
  • การปรับแต่งยังน้อย ต้องใช้ตามเฟิร์มแวร์เท่านั้น

ถ้าคุณอยากได้นาฬิกา GPS มัลติสปอร์ต ที่ไม่งอแง ใช้แบบทนๆ Suunto 5 เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่คุณไว้ใจได้ อีกทั้งการรับประกันนานถึง 2 ปี และ ผลิตจากประเทศฟินแลนด์ ถือว่าเป็นเรือนแรกสำหรับการพัฒนาไปจนถึงการแข่งขันได้สบายๆ

 

Garmin Forerunner 245 Music

สั่งซื้อ Garmin Forerunner 245 Music (ประกันศูนย์ไทย 1 ปี)

มาถึงรุ่นเด็ดสายวิ่ง ที่ไม่มีในลิสไม่ได้ ก็ต้องเป็น Garmin Forerunner 245 Music ย้ำว่าต้องเป็น Music ด้วย ถึงจะครบสูตรการวิ่งแบบฟังเพลงเพลินๆ หลังจากที่ Forerunner 235 ได้สร้างชื่อเสียงให้กับตระกูล Forerunner 2XX ไว้ ยาวนานเกือบ 5 ปี กลับมาครั้งนี้ Forerunner 245 ได้พลิกโฉมใหม่ให้ทันสมัยกว่ารุ่นเดิมไว้มาก แต่ก็ต้องยอมรับ Forerunner 245 ยังมีเจอบัคอยู่ที่หน้าจอเป็นบางราย ที่เกิดอาการ Dead Pixel ซึ่งไม่ต้องกังวล ถ้าเป็นเครื่องศูนย์ไทยที่ทางเราจำหน่ายอยู่ สามารถส่งให้ทาง Garmin Thailand ดูแลได้อย่างแน่นอนไร้กังวล

ข้อดี

  • ขนาดที่พอดี ใส่วิ่งได้อย่างมั่นใจ
  • โหมดกีฬา ที่มากกว่าการวิ่ง เช่น จักรยาน, ว่ายน้ำ และ ฟิตเนสอีกมากมาย
  • วัสดุที่แข็งแรงขึ้นกว่ารุ่นเดิม (FR 235)
  • เหมาะกับสำหรับผู้เริ่มต้นวิ่ง ถึง ระดับกลาง (แข่งขัน)

ข้อด้อย

  • ไม่เหมาะกับข้อมือขนาดใหญ่

ถ้าคุณหลงรักในการวิ่ง และยังหานาฬิกาคู่ใจใส่พร้อมกับการออกกำลังกายไม่ได้ Forerunner 245 Music แทบจะเป็นคำตอบสุดท้ายให้กับสายวิ่งที่กำลังเริ่มต้นพัฒนา อาจจะยังไม่ถึงขั้น Forerunner 945 ที่รองรับถึงไตรกีฬา แต่อย่างน้อยฟังก์ชั่นก็ไม่แพ้กันแน่นอน

 

Garmin Fenix 6 Sapphire

ไปให้สุด แล้วมาหยุดที่ Fenix 6 ก็เพราะตระกูล Fenix Series เป็นรุ่นท็อปสุดสำหรับนาฬิกาออกกำลังกายแล้ว ทั้งฟังก์ชั่นที่จับใส่มาแบบเหลือๆ และ วัสดุชั้นดี ที่แข็งแกร่งรองรับถึงการผจญภัย การกลับมาครั้งนี้ของ Fenix 6 Series มีไม้เด็ด ทั้งการเพิ่มฟังก์ชั่นของการจัดแบตเตอรี่ ให้มีพลังงานที่ยาวนานที่สุด และ ปรับเปลี่ยน User Interface รูปแบบใหม่ ให้ดูโปรมากยิ่งขึ้น ส่วนดีไซน์ตัวเรือนได้ปรับเปลี่ยนเพียงเล็กน้อย สำหรับคนที่ใช้รุ่นเดิมอย่าง Fenix 5 Plus Series ยังไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนก็ได้ แต่สำหรับคนที่ใช้ Fenix 5 Series ลงไป อยากลองของใหม่ ก็จัด Fenix 6 Sapphire อย่างไม่ต้องลังเล

สั่งซื้อ Garmin Fenix 6 Sapphire (ประกันศูนย์ไทย 1 ปี)

ข้อดี

  • วัสดุพรีเมี่ยม แข็งแรงกว่ารุ่นอื่นๆ
  • รองรับการผจญภัย เข้าป่า ท่องเที่ยว เป็นเวลานานๆ
  • ระบบจัดการแบตเตอรี่ เลือกเปิด/ปิด ฟังก์ชั่นที่ใช้งาน
  • การแสดงผลรูปแบบ เข้าใจง่าย ไม่ซับซ้อน

ข้อด้อย

  • ตัวเรือนค่อนข้างมีน้ำหนัก
  • ไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้น

ปิดจบที่ Fenix 6 แถบจะไม่ต้องพูดอะไรเยอะ เพราะฟังก์ชั่นสุดของรุ่นแล้ว ถ้าคุณอยากไปให้สุด ใช้งานแบบจริงจังไปเลย บวกกับคุณสมบัติที่ใส่เข้ามาจนคุณเล่นไม่หมดอย่างแน่นอน ต้องจบที่ Garmin Fenix 6 อย่างเดียว