เครื่องเดินวงรี Elliptical เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการออกกำลังกายในบ้าน ที่สามารถใช้งานได้ง่ายสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องเข่า หรือหลีกเลี่ยงการลงน้ำหนักที่เท้าและข้อต่อต่างๆ ด้วยลักษณะการใช้งานที่ช่วยลดแรงกระแทก แตกต่างกับลู่วิ่งที่ต้องลงน้ำหนักตัว สำหรับใครที่กำลังมองหาเครื่องเดินวงรี ทาง Core-Fitness ได้รวบรวมวิธีเลือกเครื่องเดินวงรี Elliptical ยังไงให้คุ้มค่าอยู่ในบทความนี้ไว้ทั้งหมดแล้ว
ข้อมูลพื้นฐาน
ข้อนี้ถิอว่าเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการเลือกชื้อเครื่องเดินวงรี Elliptical ควรคำนึงถึงลักษณะการใช้งานมาเป็นอันดับแรกๆ จึงขอแยกออกเป็น 3 ข้อหลัก
- งบประมาณ
- สเปคของเครื่อง
- เป้าหมายการใช้งาน
1. งบประมาณ
ในปัจจุบันเครื่องเดินวงรี Elliptical มีให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ราคาหลักพัน ไปถึงหลักแสน โดยงบประมาณสามารถบอกถึงคุณภาพของเครื่องออกกำลังกายได้ อย่าพึงเห็นแก่ราคาถูก แล้วจะได้คุณภาพที่สูงกว่า เพราะด้วยต้นทุนการผลิตที่ต่ำ ทำให้ได้วัสดุที่ไม่มีคุณภาพอาจจะใช้งานไม่ได้ยาวนาน ทำให้ต้องตัดสินใจชื้อใหม่อีกรอบ
- หลักพัน : ขนาดเล็ก เหมาะกับผู้ใช้งานที่น้ำหนักเบา ไม่มีฟังก์ชั่นเสริมหรือเทคโนโลยี
- หลักหมื่น : เหมาะกับการใช้งานในบ้านหรือคอนโด มีความแข็งแรง รองรับน้ำหนักผู้ใช้งานได้ทุกขนาด บางรุ่นอาจมาพร้อมโปรแกรมออกกำลังกาย และเทคโนโลยี
- หลักแสน : เน้นการใช้งานระดับฟิตเนส รองรับการใช้งานเป็นจำนวนมากๆต่อวัน ขนาดใหญ่ ครอบคลุมการออกกำลังกายและฝึกซ้อม
2. สเปคของเครื่อง
เมื่อตั้งงบประมาณของเครื่องเดินวงรี Elliptical ได้แล้ว ลองศึกษาสเปคของเครื่องคราวๆก็ตัดสินใจ ควรดูสเปคพื้นฐานอะไรบ้าง?
- ขนาดเครื่อง : คำนึงถึงน้ำหนักผู้เองเป็นหลัก โดยเน้นขนาดเครื่องให้พอเหมาะกับร่างกาย ไม่ควรเลือกเครื่องที่เล็กจนเกินไป
- รองรับน้ำหนักผู้ใช้งาน : ควรเลือกสเปคของเครื่องเดินวงรีที่รองรับน้ำหนักตัวเองมากกว่า 5-10 กิโลกรัมขึ้นไป ยิ่งเครื่องมีน้ำหนักมากวัสดุที่ใช้และความคงทนก็จะสูงตาม
- วัสดุ & งานประกอบ : ให้ดูที่ดีไซน์การออกแบบ ความสมดุลของตัวเครื่องควรมีเข้ากัน และงานประกอบสังเกตง่ายๆจากข้อต่อ หรือแท่นเหล็กที่มีคุณภาพ
การใช้งาน
เมื่อผ่านการดูข้อมูลพื้นฐานเครื่องเดินวงรี Elliptical มาแล้ว ข้อการใช้งานเป็นส่วนที่จะทำให้เลือกได้คุ้มค่าที่สุด ต่อให้ราคาเครื่องสูงก็ตาม ดังนั้นเรามาเป็นข้อๆกัน
1. ช่วงกว้าง
Stride Length ของเครื่องเดินวงรี Elliptical ควรเลือกให้พอเหมาะ หากระยะก้าวสั้นเกินไปอาจรู้สึกอึดอัดระหว่างออกกำลังกาย และถ้าระยะก้าวยาวเกินไป อาจทำให้รู้สึกต้องเอื้อมขาหรือยืดออกมากเกินไป จึงแนะนำให้เลือกระยะก้าวให้พอดี เพื่อทำให้รู้สึกสบายและเป็นธรรมชาติ
- ต่ำกว่า 150 cm = 11 - 14 นิ้ว
- 151- 160 cm = 14 - 16 นิ้ว
- 161 - 179 cm = 16 - 20 นิ้ว
- สูงกว่า = 20 นิ้วขึ้นไป
2. ลักษณะของจานล้อ
ถ้ามองเครื่องเดินวงรีผ่านๆ อาจจะคิดว่าจานล้อเป็นเพียงดีไซน์ของเครื่องที่สามารถเลือกนำไปด้านหน้า หรือด้านหลังของเครื่องได้ แต่จริงๆไม่ใช่เลย ตำแหน่งจานล้อเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งมอบความรู้ขณะออกกำลังกาย และระบบการขับเคลื่อนที่ใส่เข้ามา ยิ่งราคาสูงทางแบรนด์จำเป็นต้องใส่ระบบเข้าช่วยให้ใช้งานได้เรียบเนียนที่สุด
ตำแหน่งจานล้อ
- จานล้อข้างหน้า : เผาผาญแคลอรี่ได้มากกว่า ด้วนลักษณะการก้าวขึ้นเขา และออกแรงโน้มตัวไปข้างมากกว่าจานล้อข้างหลัง มีความมั่นคงและเคลื่อนย้ายที่ดีกว่า
- จานล้อข้างหลัง : ทำให้รู้สึกเหมือนกำลังวิ่งจ็อกกิ้งหรือเดินอยู่ แต่จะไม่ค่อยสะดวกขณะขึ้นลง/ลงเครื่อง เคลื่อนย้ายยากกว่า
ระบบขับเคลื่อน
- ระบบสายพาน : ระบบขับเคลื่อนแบบเก่า มีเสียงดังกว่าระบบแม่เหล็ก และต้องดูแลรักษาอยู่ตลอดเวลา
- ระบบแม่เหล็ก : ระบบใหม่ที่เข้ามาแก้ปัญหาเสียงรบกวนขณะใช้งาน สามารถสร้างแรงต้านทานด้วยแม่เหล็ก รองรับการปรับได้แม่นยำ ที่สำคัญให้ความรู้สึกนุ่มนวล
อุปกรณ์ต่างๆ
ต่อไปนี้มาดูส่วนประกอบของเครื่องเดินวงรี Elliptical กันบ้าง มีส่วนไหนที่ต้องคำนึง เพราะเป็นสิ่งที่ใกล้ชิดกับผู้ใช้งานมากที่สุดในขณะออกกำลังกาย
1. หน้าจอแสดงผล
อย่าลืมว่าการออกกำลังกายที่ได้ผลลัพธ์จำเป็นต้องมีสถิติที่ชัดเจน ดังนั้นควรมองหาเครื่องเดินวงรีที่มีหน้าจอแสดงผลที่ครบถ้วน อาทิเช่น ระยะเวลา, ความเร็ว, แคลอรี่, ระยะทาง และ Watts ถ้ามีครบถ้วนตามตัวอย่างนี้ถือว่าได้ข้อมูลสถิติออกกำลังกายที่ครบถ้วน
2. โปรแกรมออกกำลังกาย
ผู้ใช้งานส่วนมากอาจจะไม่คำนึงถึงข้อนี้ แต่จริงๆแล้วการมีโปรแกรมออกกำลังกายมาพร้อมเครื่องเดินวงรี ทำให้เพิ่มความท้าทาย ไม่น่าเบื่อกับออกกำลังกายแบบเดิมๆ ในบางรุ่นสามารถปรับความต้านทานตามโปรแกรมอัตโนมัติ
โปรแกรมออกกำลังกายที่ควรมี อย่างเช่น Fat Burn, Cardio, Interval และแบบกำหนดเอง และโปรแกรมพิเศษอย่าง Recover ที่ช่วยคูลดาวน์หลังจากออกกำลังกายมาอย่างหนักหน่วง และล่าสุดเครื่องเดินวงรีในยุคใหม่ๆของรองรับ Zwift app เพื่อจำลองการออกกำลังกายกับผู้คนออนไลน์
3. ระดับความต้านทาน
สำหรับคนที่ต้องการเพิ่มความเข้มขันให้กับการออกกำลังกาย อย่าลืมมองหาเครื่องเดินวงรีที่สามารถปรับระดับความต้านทานได้หลากหลาย เพื่อรองรับการปรับให้เข้มขันตามที่ต้องการ อย่างเช่น การปรับแรงต้านแม่เหล็ก 24 ระดับ เพื่อเพิ่มขีดจำกัด
4. ปรับระดับความชัน
ข้อนี้จะถูกแยกออกมาจากระดับความต้านทาน เพราะการปรับระดับความชันจะต้องยกสูงในบริเวณระยะก้าวขึ้นเพื่อเป็นการจำลองการเดินขึ้นเขา ทำให้เผาผลาญมากขึ้น คุณสมบัตินี้มีเฉพาะใน CORE-FITNESS - Fit Climb ซึ่งสามารถปรับได้ถึง 3 ระดับ
5. แท่นมือจับ
ควรเลือกแท่นจับที่ออกแบบตาม Ergonomics ที่มีมากกว่า 1 แท่นจับขึ้นไป เพื่อปรับเปลี่ยนท่าทางในขณะออกกำลังกายไม่ให้เกร็งเป็นเวลานานๆ นอกจากนี้ยังมีส่วนประกอบที่อยากแนะนำเพิ่มเติม
- วัดอัตราการเต้นของหัวใจ : เพิ่มความสะดวกในการวัดชีพจร พร้อมแสดงผลบนหน้าจอ
- ปุ่มกดบนแท่นมือจับ : ออกกำลังกายได้ต่อเนื่อง โดยไม่ต้องเอื้อมมือไปกดบนหน้าจอ
6. ที่วางเท้า
ข้อนี้เชื่อว่าหลายคนมองข้าม แต่แนะนำให้สังเกตขนาดที่วางเท้าด้วย เมื่อวางเท้าลงไปตรงกลางควรมีพื้นที่เหลือโดยรอบเพื่อความสบายต่อการใช้งาน และควรมีพื้นผิวกันลื่นที่ยึดเกาะเท้าได้เป็นอย่างดี ไม่เช่นนั้นมีโอกาสเท้าพอง หรือบาดเจ็บ
สรุป
อยากให้เพื่อนๆที่กำลังมองเครื่องเดินวงรี Elliptical ได้นำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบการตัดสินใจก่อนเลือกชื้อใช้งาน เพื่อเลือกใช้งานอย่างคุ้มค่า โดยจ่ายไปแล้วสามารถใช้งานได้ยาวนาน และไม่มีปัญหาจุกจิกที่ต้องมาเลือกชื้อใหม่อีกครั้ง