แนะนำหูฟังออกกำลังกายคุณภาพสูงที่คู่ควรกับ Garmin Forerunner 645 Music

เนื่องจาก Garmin Forerunner 645 Music นาฬิกา GPS ออกกำลังกายเรือนแรกจาก Garmin ที่รองรับการฟังเพลงจากนาฬิากาได้มากถึง 500 เพลง โดยให้คุณเพลินเพลิดจากการจัด Playlist เพลงที่โปรดปราณมาเก็บไว้บนข้อมือกับ Forerunner 645 Music ที่จะทำให้การออกกำลังกายสนุกและไม่น่าเบื่อกว่าที่เคย   ดังนั้นการเลือกหูฟังออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญเพราะหูฟังออกกำลังกายต้องสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์และมีคุณภาพเสียงที่ถ่ายทอดมาอย่างสมจริง ในระยะยาวความคุ้มค่าที่แนะนำควรเลือกใช้หูฟังที่มีประสิทธิภาพสูง ดีกว่าใช้หูฟังในราคาประหยัดในหลักร้อยที่คาดเดาอายุการใช้งานและคุณภาพเสียงไม่ได้  

 

คุณสมบัติหูฟังออกกำลังกายที่ดี

  • ทนต่อเหงื่อ & ละอองน้ำ หูฟังออกกำลังกายที่ดีต้องมีมาตรฐาน WaterProof  เพื่อรองรับกับการออกกำลังกาย
  • สวมใส่ได้อย่างกระชับ รองรับการเคลื่อนไหวที่ต่อเนื่อง หูฟังออกกำลังกายที่ดีต้องมีที่เกี่ยวใบหูเพื่อเสริมความกระชับ
  • คุณภาพเสียงที่ดีเก็บมิติเสียงได้ครบถ้วน หูฟังที่ดีต้องสามารถถ่ายทอดเสียงกับสภาพแวดล้อมต่างๆในคุณภาพเสียงที่ชัดเจน
  • การควบคุม หูฟังออกกำลังกายที่ดีควรเลือกบริเวณปุ่มควบคุมให้ใช้งานง่ายและเข้าถึงการใช้งานได้สะดวกและรวดเร็ว

ทั้งหมดนี้คือลักษณะของหูฟังออกกำลังกายที่ดีที่ควรเลือกซื้อมาใช้งานคู่การกีฬา&ออกกำลังกาย โดยทางทีมงาน TSMactive ได้คัดสรรหูฟังออกกำลังกายคุณภาพสูงและกลุ่มคนรักออกกำลังกายเลือกใช้งานทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งเป็นหูฟังที่คนรักเสียงต้องรู้จักเป็นอย่างดีแน่นอน  

 

Aftershokz Trekz Titanium

Aftershokz Trekz Titanium หูฟังรูปแบบ On-Ear น้ำหนักบางเบาที่เลือกใช้เทคโนโลยีสุดล้ำที่ฟังเพลงขณะออกกำลังกายได้ต่อเนื่อง โดยใช้วิธีหนีบกระดูกอ่อนข้างหูเพื่อส่งสัญญาณเสียงเข้าไปยังกระดูกใต้แก้ม จึงกลายหูฟังออกกำลังกายรุ่นยอดนิยมอีกหนึ่งรุ่น เชื่อมไร้สายด้วย Bluetooth 4.2 กับสมาร์ทโฟน และ นาฬิกาออกกำลังกายอย่าง Forerunner 645 Music ได้อย่างสมบูรณ์แบบ เสียงคุณภาพด้วย เทคโนโลยี PremiumPitch+™ ร่วมกับ LeakSlayer™  ได้มิติเสียงที่สมจริง ในย่านเสียงต่างๆครบถ้วน และยังสามารถลดเสียงรบกวบรอบข้างเมื่อสนทนาผ่านไมค์ที่ให้เสียงคมชัด เมื่อชาร์จเต็มอายุใช้งานได้สูงสุดถึง 6 ชั่วโมง  

Aftershokz Trekz Titanium มีดีที่สวมใส่กระชับด้วยการคิดค้นเพื่อการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลาในระบบ OpenFit™ ต่อให้สวมใส่เป็นเวลานานๆจะไม่รู้สึกอาการปวดใดๆ รับมือกับเหงื่อและละอองน้ำได้อย่างปลอดภัยด้วยคุณสมบัติกันน้ำในมาตรฐาน IP55 ทั้งหมดนี้ในหูฟัง Trekz Air ถือว่ามีคุณสมบัติของหูฟังออกกำลังกายที่จัดว่าครบถ้วนและเหมาะกับผู้ที่ใช้งานการฟังเพลงอย่างต่อเนื่องแต่ได้ความสบายอย่างแท้จริง  

Trekz AIR เป็นหูฟัง On-Ear รูปแบบการฟังแนบกระดูกเหมือนกับ Trekz Titanium โดย Aftershokz Trekz AIR ได้ถูกอัพเกรดวัสดุให้มีคุณภาพสูงขึ้นกว่าเดิม แต่ต้องแลกกับน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย รองรับการใช้งานไร้สาย Bluetooth 4.2 กับสมาร์ทโฟน และ Forerunner 645 Music ได้แน่นอน พลังเสียงยังคงจัดเต็ม หนักแน่นเก็บมิติเสียงมาตามต้นฉบับ และ Noise Canceling สนทนาสายด้วยเสียงคมชัดสูง สนุกกับการฟังเพลงได้นานถึง 6 ชั่วโมงเช่นกัน  

Aftershokz Trekz AIR เป็นหูฟังที่วางจำหน่ายต่อจากรุ่น Trekz Air ที่เน้นความเบา โดยในรุ่น Trekz AIR ยังคงจัดเต็มในเรื่องความสบายในการสวมใส่ และ มาตรฐานกันละอองน้ำและเหงื่อ ( IP55 Certified) บวมกับวัสดุไทเทเนียมที่แข็งแรงทนทานแต่มีน้ำหนักเบา จึงทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานกว่ารุ่นใดๆใช้ได้ทั้งเดินทางและออกกำลังกาย

 

Jabees BeatinG Plus

หูฟังออกกำลังกาย In-Ear ที่มาพร้อมสายสะท้อนแสง (Reflective Cable) ทำให้ออกกำลังกายได้ปลอดภัยในสภาวะแสงน้อย ฟังเพลงและสนทนาสายได้ต่อเนื่องถึง 4 ชั่วโมง เชื่อมต่อด้วยระบบ Bluetooth กับ สมาร์ทโฟน และ Forerunner 645 Music ด้วยพลังเสียงเพลงที่เกินตัว เบสที่หนัก เก็บรายละเอียดเสียงต่างๆมาได้ครบไม่ตกหล่น ที่สำคัญผ่านการเคลือบสารพิเศษสำหรับกันละอองน้ำได้ ผ่านคุณสมบัติ Water and Sweat Proof จึงรับมือกับเหงื่อได้ขณะออกกำลังกายได้  

Jabees BeatinG Plus ถือได้ว่าเป็นหูฟังจากแบรนด์ Jabees ที่ดีเยี่ยมกว่ารุ่นอื่นๆในระดับราคาที่คุ้มค่า โดยถ้าเป็นรุ่นรองลงจาก BeatinG Plus และ Bsport ลงไปคุณภาพการใช้งานยังไม่น่าพอใจเท่าที่ควร ภายในกล่อง BeatinG Plus ได้แถมที่เกี่ยวหู (Eartips) มา 2 รูปแบบ มาอย่างละ 3 ขนาด จึงทำให้ผู้ใช้งานสามารถเลือกใช้ได้เหมาะสมกับใบหู ในขณะเคลื่อนไหวจะไม่เกิดอาการหลุดหรือสั่นเกิดขึ้น