ออกกำลังกายที่บ้าน ระดับชีพจรเหมาะสม เท่าไหร่ดี?
สำหรับผู้ที่เริ่มต้นออกกำลังกาย หรือ มือใหม่ที่หันมาฟิตร่างกายเพื่อสุขภาพ เคล็ดลับสำคัญเพื่อทำให้ความเหนื่อยล้าจากพลังงานที่สูญเสียไปให้คุ้มค่าที่สุด นั้นก็คือ การคุมระดับชีพจรให้เหมาะสม เพื่อออกกำลังกายเป็นไปตามเป้าหมายมากที่สุด
ข้อดีหลักๆ 3 ข้อ ของการคุมระดับชีพจรให้เหมาะสมมีอะไรบ้าง ?
- ทำให้ตัวเราเองรู้ถึงความหนัก-เบาของการออกกำลังกาย
- ควบคุมเพื่อรักษาระดับพลังงานที่คงที่ และ สม่ำเสมอ
- รู้เป้าหมาย เพื่อตรงตามจุดประสงค์ของการออกกำลังกาย
วิธีคำนวณอัตราการเต้นหัวใจ
1.1 คำนวณชีพจรสูงสุด 100% ด้วยตนเอง
ตั้งด้วย 220 - อายุ = อัตราเต้นหัวใจ 100 %
เช่น อายุ 28 (220 - 28 = 192)
- 192 คือ 100 % ของคนอายุ 28 นี้เอง
- 96 คือ 50% ของคนอายุ 28 นี้เอง
*ข้อด้อยของการคำนวณชีพจรด้วยตนเอง จะไม่สามารถติดตามค่าชีพจรได้ต่อเนื่อง
1.2 . ใช้นาฬิกาออกกำลังกาย คำนวณอัตราการเต้นหัวใจ หรือ บ่งบอกโซนชีพจร
ปัจจุบันนี้นาฬิกาออกกำลังกาย ในแบรนด์ที่นิยมในกลุ่มนักกีฬา อย่างเช่น Garmin, Suunto, Ploar และ Fitbit จะมีเซ็นเซอร์ไว้สำหรับวัดอัตราการเต้นของหัวใจอยู่ใต้ตัวเรือนเพื่อติดตามระดับชีพจรทั้งการออกกำลังกาย และ ในชีวิตประจำวัน
โดยผู้ใช้งานเพียงกำหนด Profile (อายุ/เพศ/น้ำหนัก/ส่วนสูง) เพื่อให้นาฬิกาคำนวณหลักเกณฑ์ให้อัตโนมัติ อย่างเช่น บ่งชี้ระดับโซนชีพจรแบบ Real-Time อย่างในนาฬิกา Garmin Forerunner 245 หรือ Suunto 5 นั่นเอง
แต่ล่ะโซนชีพจรมีประโยชน์อย่างไร ?
Zone 1 (50% - 60%) : ระดับปกติเพื่อวอร์ม/คูลดาวน์
- ช่วยให้เลือดไหลเวียนดี ฟื้นฟูหลังจากออกกำลังกายหนักๆ
Zone 2 (60% - 70%) : ระดับเผาผาญไขมัน
- โซนนี้จะเผาผาญคาร์โบไฮเดรตที่เพิ่งกินไปและหลังจากนั้น
จะเริ่มเผาผาญไขมันได้อย่างดี ควรออกกำลังกายติดต่อตั้งแต่ 40-60 นาที
Zone 3 (70% - 80%) : ระดับคาร์ดิโอ เพื่อหัวใจที่แข็งแรง
- โซนที่เริ่มจะหนักหน่วง เน้นให้หัวใจสูบฉีด ออกกำลังกาย 10 - 30 นาที
เช่นเต้น อาราบิค, วิ่งลู่, ปั่นจักรยาน เป็นต้น
Zone 4 (80% - 90%) : ระดับเพิ่มประสิทธิภาพ
- มือใหม่ส่วนมากจะมาแช่อยู่ในโซนนี้นานๆ ด้วยความเหนื่อย จึงแนะนำให้ผ่อนแรงลดลงไปโซน 2-3
- ควรใช้เวลาสั้นๆในช่วง 2 - 10 นาที เพิ่มความทนให้กับกล้ามเนื้อและการออกกำลังกาย
Zone 5 (90% - 100%) : ระดับก้าวข้ามขีดกำจัด
- เหมาะสำหรับการฝึกซ้อมนักกีฬาที่เตรียมแข่งขัน เพื่อพัฒนาศักยภาพสูงสุด
สรุปแล้วออกกำลังกายที่บ้าน ควรอยู่ในระดับชีพจรเหมาะสม เท่าไหร่ดี ?
สำหรับมือใหม่ ต้องการลดน้ำหนัก
แนะนำให้อยู่ช่วงโซน 2 ซึ่งเป็นช่วงที่ไม่เหนื่อยมาก อยู่ในระดับเหงื่อซึมๆ แต่จริงๆแล้วร่างกายกำลังเผาผาญด้วยการนำคาร์โบไฮเดทมาใช้พลังงาน แล้วจึงนำไขมันออกมาใช้งานในท้ายที่สุด เพื่อลดน้ำหนัก และ รักษาสุขภาพ
สำหรับเพิ่มความฟิต
แนะนำในช่วงโซน 3 แบบสม่ำเสมอ สำหรับผู้ที่เคยชินกับการออกกำลังกายมาแล้ว เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงของหัวใจ เพื่อการออกกำลังกายที่ยาวนานและอึดขึ้น อีกทั้งให้ทำกล้ามเนื้อส่วนอื่นๆแข็งแรงขึ้น
สรุปแล้วถ้าเพื่อนๆที่ต้องออกกำลังกายให้สำเร็จตรงตามเป้าหมายโดยใช้เวลาที่น้อยกว่าการออกกำลังกายแบเดิมๆ ควรเริ่มใช้ค่าระดับชีพจรเข้ามาช่วยเป็นตัวกำหนดเป้าหมาย ทั้งช่วยสร้างแรงจูงใจ และ จัดการพลังงานที่สูญเสียไปอย่างเป็นระบบ