Fitbit Sense รุ่นใหม่ล่าสุด มาพร้อมคุณสมบัติที่เยอะที่สุดของแบรนด์ Fitbit โดยมีความสามารถมากกว่า Versa 3 รุ่นที่เปิดตัวมาพร้อมกัน ในเรื่องระบบติดตามสุขภาพ เช่น เครื่องมือวัดความเครียด, EDA Scan app, ติดตามอุณหภูมิผิวหนัง และการแจ้งเตือนชีพจร ซึ่งเป็นคุณใหม่ที่เพิ่งมีอยู่ใน Fitbit Sense รุ่นแรก
จุดเด่นของ Fitbit Sense
- เพิ่มฟังก์ชั่น ECG ตรวจจับคลื่นไฟฟ้าหัวใจ
- เพิ่มฟังก์ชั่นวัดอุณหภูมิร่างกายผ่านทางผิวหนัง
- เพิ่มฟังก์ชั่นแจ้งเตือนเมื่อหัวใจเต้นเร็วกว่าปกติ / ช้ากว่าปกติ
- เพิ่มฟังก์ชั่นจับอัตราการหายใจ(ต่อนาที) ขณะนอนหลับ
- เพิ่มฟังก์การติดตามความเครียดแบบใหม่แบบเจาะลึก
- เพิ่มแอพ EDA Scan เพื่อติดตาม Electrodermal Activity
- เพิ่มฟังก์ชั่นการติดตามความแปรปรวนของอัตราการเต้นของหัวใจ (HRV)
- เปลี่ยนเซนเซอร์วัด HR ตัวใหม่เป็น PurePulse 2.0 optical HR sensor แม่นยำกว่าเดิม
- รองรับการสั่งงานด้วยเสียงของ Google Assistance (จากเดิมรองรับแค่ Alexa)
- ในอนาคตวางแผนรองรับการคุยโทรศัพท์ผ่านนาฬิกาโดยตรง (มีไมค์และลำโพงในตัว)
- ดีไซน์สวยงามมีมิติกว่าเดิม กระจกแบบ Gorilla Glass 3 และตัวเรือนเป็นสแตนเลสขัดเงา
ดีไซน์
- สายนาฬิกาในรูปแบบใหม่ "อินฟินิตี้" ลักษณะซ่อนปลายสาย เพัฒนาให้สายอ่อนนุ่มขึ้น สวมใส่ได้ตลอดทั้งวัน ซึ่ง Fitbit Sense มีให้เลือกเพียง 2 สีเท่านั้น (ครีม/ทอง) Lunar White/Soft Gold และ (คาร์บอน) Carbon/Graphite
- ในสมาร์ทวอทช์ Fitbit รุ่นใหม่ๆ ภายในกล่องจะมาพร้อมสาย 2 ขนาด ทั้ง S และ L เลือกสลับเปลี่ยนตามขนาดข้อมือได้อิสระ และที่สำคัญเปลี่ยนสายได้ง่ายๆ เพียงแค่กดสลักหลังตัวเรือนเท่านั้น
- ดีไซน์กรอบหน้าปัดอัพเกรดให้ดูพรีเมี่ยมากขึ้น ตัวเรือนประกบด้วยวัสดุอลูมิเมี่ยม สวมใส่แล้วรู้สึกถึงความแข็งแรงทนทาน และมาพร้อมปุ่มซ่อนด้านซ้ายเพียง 1 ปุ่ม ตอบสนองการกดด้วยระบบสั้น ซึ่งการควบคุมหลักๆด้วยระบบสัมผัสหน้าจอเพื่อเข้าถึงเมนูต่างๆได้อย่างลื่นไหล โดนเป็นหน้าจอสีความละเอียดสูง ให้สีสันที่จัดจ้าน มีโหมด Always On เปิดการทำงานของหน้าจอไว้ตลอดเวลา
สุขภาพ
เพิ่มเซ็นเซอร์ใหม่ ECG app ตรวจวัดคลื่นไฟฟ้าของหัว ประเมินระดับสุขภาพ อีกทั้ง EDA Scan app ติดตามการตอบสนองของร่างกายเพื่อบ่งบอกความเครียด โดยแสดงข้อมูลและกราฟใน Fitbit app และยังสามารถติดตามอุณหภูมิผิวหนังที่ข้อมือ เพื่อทราบแนวโน้มของสุขภาพ ด้วยเซ็นเซอร์ที่มาพร้อมกับ Fitbit Sense โดยต้องสวมใส่แบบต่อเนื่อง
- EDA Scan ของ Fitbit เป็นแอปที่ต้องดาวน์โหลดและใช้งานบนนาฬิกา โดยวิธีการทำงาน เพียงเราวางฝ่ามือไว้บนหน้าปัดนาฬิกา (ด้านบนสุด) เพื่อวัดการทำงานของอิเล็กโทรดเดอร์มัล เพื่อติดตามข้อมูลระดับความเครียด โดยใช้ข้อมูลความต้านทานไฟฟ้าของผิวหนัง ซึ่งพิจารณาจากสิ่งต่างๆ เช่น เหงื่อ อัตราการเต้นของหัวใจ
- Skin Temperature Sensor หรือเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิของผิวหนัง ฟังก์ชั่นนี้เป็นเหมือนกับ Sleep Track จะไม่สามารถวัดได้ทันทีทันใดเลย ต้องสวมเอาไว้ตลอดทั้งคืน เพื่อติดตามข้อมูลอุณหภูมิของร่างกายเพื่อแนวโน้วโอกาสที่จะป่วย
- ECG หรือการตรวจจับคลื่นไฟฟ้าของหัวใจ ฟังก์ชั่นนี้อยู่ในขั้นตอนการอนุมัติตามกฏหมายเพียงนำมือไปแตะที่ขอบตัวเรือนเพื่อให้วงจรไฟฟ้าทำงานและวัดค่า
ฟีจเจอร์เด็ดๆที่ทาง Fitbit คิดค้นขึ้น Active Zone Minutes วัดอัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมเปรียบเทียบกับอายุ เพื่อตอบสนองทุกกิจกรรม ใช้อัตราการเต้นของหัวใจส่วนบุคคลและอัตราการพักหัวใจ (RHR) และ ข้อมูลอายุ ทำให้เกิดเป้าหมายของแต่ละบุคคลเพื่อช่วยกระตุ้นและติดตามกิจกรรม พร้อมทำให้ปรับปรุงและพัฒนาสุขภาพในการทำกิจกรรม
ออกกำลังกาย
- Fitbit Sense มีระบบ GPS ในตัว สามารถสวมใส่ไปออกกำลังกาย Outdoor เพื่อติดตามระยะทาง Pace และตำแหน่ง และโหมดกีฬายอดนิยม วิ่ง, จักรยาน, ว่ายน้ำ และกิจกรรมในฟิตเนส
- ซึ่งมีโหมดออกกำลังกายให้เลือกใช้งานกว่า 20 ชนิด ภายใน Fitbit app พร้อมตั้งเป้าหมายเพื่อทำให้ออกกำลังกายสนุกยิ่งขึ้น
- และโหมด Fitbit Coah แนะนำท่าทางออกกำลังกายพร้อมให้ผู้ใช้งานทำตามไปพร้อมๆกัน ด้วยการแสดงผลจากหน้าปัดนาฬิกาและสรุปผลหลังเสร็จสิ้นกิจกรรม
- ระบบแจ้งอัตราการเต้นของหัวใจสูง/ต่ำกว่าเกณฑ์ของสุขภาพรายบุคคล เลือกเปิดใช้งานในโหมดออกกำลังกายในเมนู Settings
สมาร์ทวอซท์
- สามารถเลื่อนดูข้อมูล ก้าวเดิน, ระยะทาง, แคลอรี่, รอบเดือน และอื่นๆได้อย่างง่ายดายจากหน้าปัดหลัก ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะแสดงเป็นตัวเลขและไอคอนเป้าหมายต่อวัน
- รองรับการสั่งด้วยเสียงกับ Google Assistant และ Alexa และระบบ NFC เพื่อรองรับ Fitbit Pay ชำระผ่านนาฬิกาโดยไม่ต้องพกกระเป๋าเงิน
- ควบคุมเพลงจากสมาร์ทโฟน และ Spotify สามารถดาวโหลดหน้าปัดนาฬิกาพร้อมแอพต่างๆได้อีกมากมายด้วยระบบ FitOS จาก Fitbit app
แบตเตอรี่
- Fitbit Sense รองรับการใช้งานได้สูงสุด 6 วัน โดยไม่ต้องชาร์จทุกๆวันอีกต่อไป หรือถอดชาร์จขณะนอน อีกทั้งมาพร้อม Fast Charging ระบบชาร์จเร็ว ชาร์จเพียง 12 นาที ใช้งานสูงสุดได้ 1 วัน
ใช้งานได้ง่าย
- ด้วยเมนูการใช้งาน และ UI ไอคอน ที่ถูกออกแบบมาให้เข้าใจได้ง่าย ไม่ซับซ้อน และฟังก์ชั่นการใช้งานที่คัดมาแบบเน้นๆ จึงเป็นถูกใจแฟนๆ Fitbit มาโดยตลอด
- Fitbit Sense รองรับการใช้งานได้ทั้งสมาร์ทโฟนระบบ IOS และ แอนดรอย เพียงดาวโหลด Fitbit app มาติดตั้งบนสมาร์ทโฟนและเชื่อมต่อก็พร้อมใช้งานได้ทันที
สรุป
เรียกได้ว่า Fitbit Sense ได้ว่าเข้ามาแทนที่ Fitbit Ionic (รุ่นเดิม) โดยพัฒนาและเพิ่มฟีจเจอร์ในเรื่องสุขภาพให้น่าใช้งานกว่าขึ้น โดยเหมาะอย่างยิ่งกับคนที่กำลังมองสมาร์ทวอซท์ที่มีประสิทธิภาพสูง ติดตามสุขภาพได้แม่นยำ และยังสวมใส่ออกกำลังกายได้ครบ จบภายในเรือนเดียว