ครั้งแรกของ Suunto ก้าวมาสู่ความเป็นสมาร์ทวอทช์ที่เต็มรูปแบบ ถือกำเนิดมาเป็น Suunto 7 โดยยังนำจุดเด่นของฟังก์ชั่นโหมดกีฬาจาก Suunto ยกมาร่วมกับ Wear OS by Google ที่มาพร้อมฟีเจอร์ต่างๆให้ผู้ใช้งานใช้แบบไม่รู้จบ ทั้งหมดนี้ทาง Suunto ได้ออกแบบให้เป็นสมาร์ทวอทช์เรือนเดียว ที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตทั้งสองรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นกีฬาหรือชีวิตประจำวันได้อย่างลงตัวโดยไม่ต้องถอดเปลี่ยนไปใส่นาฬิกา GPS ออกกำลังกาย หรือ กลับไปใส่สมาร์ทวอทช์รุ่นก่อนๆเวลาทำงาน

ก่อนที่จะเจาะสเปค Suunto 7 ทางทีมงาน TSMACTIVE อยากให้เพื่อนๆได้ทำความรู้จัก Wear OS by Google กันก่อน ซึ่งถือเป็นหัวใจหลักของสมาร์ทวอทช์รุ่นนี้ โดยทาง Suunto ได้ร่วมมือกับ Google และ Snapdragon จนออกมาเป็นระบบปฏิบัติการ Wear OS by Google ที่ขับเคลื่อน Suunto 7 ได้อย่างลื่นไหล

 

Wear OS by Google คืออะไร ?

ระบบปฏิบัติการจาก Google สำหรับสมาร์ทวอทช์ เปิดให้นักพัฒนาเข้ามาร่วมมือ และ สร้างสรรค์แอพพลิเคชั่นต่างๆสู่ Google Play โดยมีแบรนด์ดังๆจากทั่วโลกเลือกใช้ Wear OS นำมาพัฒนาให้เข้ากับกลุ่มผู้ใช้งาน ซึ่ง Suunto เป็นหนึ่งในนั้นที่เลือกเอานาฬิกาสายสปอร์ต GPS มาพัฒนาร่วมกับ Wear OS จึงทำให้ปลดล็อคคุณสมบัติต่างๆที่ Suunto ไม่เคยมีมาก่อน 

 

Wear OS ใช้งานได้กับ iOS และ Android  ?

สำหรับฟังก์ชั่นการใช้งานหลักๆของ Wear OS สามารถใช้ได้กับ iOS อย่าง Service ของ Google และยังมีแอพสำหรับการเชื่อมต่อ Wear OS บน App Store เพื่อเริ่มต้นการใช้งาน สำหรับการใช้งานเพิ่มเติมระหว่าง iOS ร่วมกับ Suunto 7 จะไม่ได้ 100% เหมือนกับคนที่ใช้สมาร์ทโฟน Android ร่วมกับ Suunto 7 อันนี้จะเต็มประสิทธิภาพและใช้งานฟังก์ชั่นได้สมบูรณ์แบบมากกว่า 

 

สิ่งใหม่ๆที่มาจาก Wear OS ฝั่ง Google 

  • Google Play : คลังแอพต่างๆ และ หน้าปัดนาฬิกา ที่เปิดให้โหลดใช้งานได้ผ่านหน้าปัดนาฬิกาโดยตรง (เหมือนกับ Google Play ที่อยู่สมาร์โฟนแอนดรอยด์แต่จะมีแอพที่รองรับบนนาฬิกาเท่านั้น)

แอพพลิเคชั่น Google Maps, Google Music, Google Translate รวมไปถึง Strava และแอพต่างๆที่เลือกโหลดจาก Google Play ตามไลฟ์สไตล์การใช้งาน

 

  • Google Assistant : ผู้ช่วยส่วนตัวอัจฉริยะ สั่งงานด้วยเสียง เพื่อรับข้อมูลต่างๆ หรือต่อยอดสั่งงานแบบอัจฉริยะ (คล้ายๆกับ Siri ทางฝั่ง apple นั้นเอง)
  • Google Fit : แอพสำหรับติดตากิจกรรมออกกำลังกาย โดย Google เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
  • Google Pay : แพลตฟอร์มกระเป๋าสตางค์แบบดิจิทัลและระบบการชำระเงินออนไลน์ที่ Google โดยไม่ต้องพกกระเป๋าสตางค์ หรือ บัตรเครดิตจริงๆอีกต่อไป

 

 

สิ่งใหม่ๆที่มาจาก Wear OS ฝั่ง Suunto

  • Watch Face : เลือกโหลดหน้าปัดนาฬิกาเพิ่มเติมแบบไม่จำกัด พร้อมการปรับแต่งเฉพาะบุคคลได้จาก Google Play
  • Suunto Sport Mode : โหมดออกกำลังกายกว่า 70 ชนิด จาก Suunto ที่ถูกปรับรูปแบบใหม่  พร้อมการติดตามแม่นยำ รับข้อมูลเชิงลึกผ่าน Suunto app

Suunto Sport Mode ถูกปรับแต่งให้เข้ากับ Wear OS มีเฉพาะใน Suunto 7 เท่านั้น ไม่เปิดให้สมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆได้ใช้งาน

  • Maps : แผนที่สีสำหรับการออกกำลังกายเต็มรูปแบบแสดงผลบนหน้าปัด แบ่งแยกตามกิจกรรมและเส้นทางยอดนิยม (Heatmap)
  • Music : ควบคุมเพลงจากสมาร์ทโฟน หรือ ฟังเพลงโดยตรงจากแอพต่างๆที่รองรับ

 

สเปคภายใน Suunto 7 

จริงๆแล้วทาง Suunto เองได้ประกาศเปคอย่างละเอียดให้กับผู้ใช้งาน แต่ทางทีมงาน TSMACTIVE ได้ไปหาข้อมูลสเปคของ Suunto 7 แบบจัดเต็มมาให้ดูกัน

  • ซิพประมวลผล Qualcomm Snapdragon Wear 3100
  • รันบนซีพียู ARM Cortex A7 แรม 1 GB
  • ระบบปฏิบัติการ Wear OS Version 2.X (H-MR1)
  • ติดตั้ง Suunto Sport Modes กีฬา 70 กว่าชนิด
  • ติดตั้ง Google : Assistant, FIT, Pay และ Google Play
  • หน่วยความจำ 8 GB (ใช้ได้จริงประมาณ 4-5 GB)
  • หน้าจอสีสัมผัส AMOLED สว่างถึง 1000nits
  • ความละเอียด 454px ขนาด 1.39 นิ้ว
  • เซนเซอร์วัดชีพจร Pixart ใช้อัลกอริทึมจาก LifeQ
  • ระบบ GPS ตำแหน่ง และ Barometer สภาพแวดล้อม
  • รองรับการแสดงแผนที่แบบออฟไลน์ และ Heatmaps
  • เชื่อมต่อได้ทั้ง WIFI NFC และ Bluetooth
  • แบตเตอรี่โหมด GPS สูงสุด 12 ชั่วโมง
  • แบตเตอรี่ใช้ประจำวัน สูงสุด 48 ชม. (ประมาณ 2 วัน)
  • กันน้ำ 50 เมตร
  • รองรับภาษาไทย
  • รองรับทั้ง iOS และ Android 

 

สเปคภายนอก Suunto 7 

ถึก ทน แน่นอน เพราะ Suunto 7ด้ถูกทดสอบมากกว่า 1,000 ชั่วโมงในประเทศฟินแลนด์  เพื่อให้มั่นใจต่อการใช้งานทุกสถานการณ์แม้ในสภาวะที่โหดร้าย

  • น้ำหนัก : 70 g / 2.47 oz
  • ขนาดข้อมือ : 130 - 230 mm
  • วัสดุ :  Stainless steel
  • กระจกหน้าจอ :  Gorilla glass
  • วัสดุตัวเรือน :  Glass fibre reinforced polyamide
  • สายนาฬิกา : ซิลิโคน (ขนาด 24mm) เปลี่ยนได้โดยไม่ใช้เครื่องมือ

 

หน้าจอ

Suunto 7 ควบคุมการใช้งานด้วยระบบสัมผัสหน้าจอที่ลื่นไหลด้วยขุมพลัง Snapdragon ที่ Suunto ได้เข้าร่วมพัฒนา อีกทั้งยังแข็งแรงทนทานต่อการใช้งานด้วยกระจก Gorilla glass รูปแบบการแสดงผล AMOLED ให้สีสันที่สดใจ จัดจ้าน คมชัดสูงด้วยความละเอียด 454 px พร้อมระบบปรับความสว่างแบบอัตโนมัติ พอสู้กับแสงแดดได้เวลาแสดงผลในพื้นที่กลางแจ้ง 

 

ปุ่มกด

นอกจากการควบคุมด้วยระบบสัมผัสหน้าจอแล้ว Suunto 7 ยังเพิ่มปุ่มกดควบคุม 4 ปุ่ม เพื่อเข้าถึงการใช้งานได้อย่างรวดเร็วขึ้น ทั้งปุ่ม Shortcut ต่างๆ และใช้งานในขณะออกกำลังกายได้อย่างแม่นยำ ความรู้สึกการกดปุ่มทำได้อย่างมั่นใจ ออกแบบการจัดวางปุ่มได้อย่างลงตัว

 

เซนเซอร์

ทาง Suunto ได้จัดเต็มในเรื่องเซนเซอร์สำหรับการติดตามข้อมูลต่างๆ ภายใน Suunto 7 ได้ใส่มาให้แบบครบถ้วน

  • เซนเซอร์วัดชีพจร บริเวณใต้ตัวเรือนถูกจัดวางรูปแบบใหม่
  • เซนเซอร์ระบบ GPS ติดตามตำแหน่งกิจกรรมกลางแจ้ง (GPS, GLONASS, QZSS, BEIDOU)
  • เซนเซอร์ Barometer วัดค่าความกดอากาศ

 

วัสดุต่างๆ

ด้านบริเวณกรอบหน้าจอเสริมด้วยวัสดุสแตนเลสพร้อมการดีไซน์ยกสูงขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อรองรับการกระแทกต่างๆในชีวิตประจำวัน และบริเวณรอบตัวเรือนทำจากโพลิเมอร์เสริมใยแข็งแรงที่ให้ความรู้สึกแข็งแกร่ง

 

สายนาฬิกา

ใน Suunto 7 ยังคงใช้คอนเซ็ปเดิมเกี่ยวกับสายซิลิโคนที่เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน ไม่ก่อให้เกิดการแพ้ต่อเนื้อสายขณะสวมใส่ อีกทั้งเนื้อสายที่มีความหนา แต่กลับให้สัมผัสที่นุ่มนวล พร้อมพื้นที่ดีไซน์ที่นูนขึ้นมาแบบเฉียงๆให้ความรู้สึกถึงความเรียบหรู

 

ชาร์จไฟ

รูปแบบการชาร์จไฟของ Suunto 7 ได้เปลี่ยนลักษณะแบบใหม่ แต่ยังคงเป็นแม่เหล็กเพียงวางลงไปให้ถูกตำแหน่งก็พร้อมชาร์จพลังงานได้ทันที

 

 

ใช้งานในชีวิตประจำวันกับ Suunto 7

เนื่องจาก Suunto 7 เป็นสมาร์ทวอทช์รูปแบบเปิด ที่ไม่ถูกจำกัดในเรื่องการปรับแต่ง หรือการใช้งานแบบเดิมๆ จึงทำให้ฟังก์ชั่นต่างๆในชีวิตประจำวันมีความหลากหลายและขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งานแต่ล่ะคน ซึ่งเราจะพาเพื่อนๆไปดูฟังก์ชั่นหลักของ Suunto 7 กัน เพื่อนำไปต่อยอด หรือ ใช้งานให้ตรงกับความต้องการ

หน้าปัดนาฬิกา

เมื่อเราอยู่ในหน้าปัดหลักของ Suunto 7 เพียงแตะค้างไว้จะพบกับเมนูของการเปลี่ยนหน้าปัดนาฬิกา ซึ่งมาพร้อมหน้าปัด  Suunto Designed รูปแบบใหม่ที่เลือกปรับช่องข้อมูลแสดงผลได้ พร้อมหน้าปัด Heatmaps  แสดงเส้นทางออกกำลังกายยอดนิยม อีกทั้งเมนูสุดท้ายสำหรับเข้าไปดาวโหลดนาฬิกาปัดเพิ่มเติมจาก Google Play

ศูนย์ควบคุม

เข้าถึงเมนูการควบคุมนาฬิกา หรือตั้งค่าได้ง่ายๆ โดยสไลด์จากขอบหน้าจอด้านบนลงมาจะพบกับไอคอนเมนูสำหรับการใช้งานเร่งด่วน พร้อมสถานะแบตเตอรี่ และ ไอคอนการเชื่อมต่อต่างๆ รวมไปถึงเมนูตั้งค่าในบริเวณด้านบนสุด

การแจ้งเตือน

เมื่อมีสถานะการแจ้งเตือนขึ้นมาจากสมาร์ทโฟน หรือสถานะการใช้งานจาก Wear Os สามารถเข้าไปตรวจเช็คได้ด้วยการสไลด์จากขอบหน้าจอด้านล่างลงมาในหน้าปัดหลัก เพื่อไม่พลาดการอัพเดทข้อมูลต่างๆ

Google Assistant

ขณะอยู่ในหน้าปัดหลัก สามารถเข้าสู่เมนู Google Assistant ได้ 2 รูปแบบ ด้วยการสไลด์จากขอบหน้าจอฝั่งซ้าย หรือ กดปุ่มซ้ายบนค้างไว้ เมื่อเข้ามาจะพบไอคอนไมโครโฟนสำหรับการสั่งงาน หรือ สอบถามข้อมูลต่างๆ จาก Google Assistant ด้วยเสียง โดย Suunto 7 ต้องเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตอยู่เสมอ จาก Wifi ที่ใช้งานปกติ เพื่อเข้าไปค้นหาข้อมูล หรือ สั่งงานอุปกรณ์ต่างๆแบบไร้สายได้ทุกที่

ตัวอย่างการใช้งาน Google Assistant

  • สั่งงานกับสมาร์ทโฟน นำทางด้วย Google Maps เช่น : พูดว่า... ไปโรงบาลพญาไท
  • สั่งงานอัจฉริยะ กับอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับ Google Home เช่น : พูดว่า... เปิดไฟ

 

Google Fit

คราวนี้ทาง Suunto ได้หลบให้ Google Fit เป็นเมนูหลักสำหรับการติดตามกิจกรรมในประจำวัน อาทิเช่น นับจำนวนก้าวเดิน, ปริมาณ และ อัตราการเต้นของหัวใจ พร้อมกราฟแสดงผล ซึ่งเข้าถึงเมนู Google Fit ได้ 2 รูปแบบเช่นกัน โดยสไลด์จากขอบหน้าจอฝั่งขวา หรือ เข้าจากเมนูหลัก 

การ์ด

เมนู "การ์ด" ถ้าเรียกง่ายๆและเข้าใจนั่นก็คือ "วิดเจ็ต" สำหรับเลือกดูข้อมูลเพิ่มเติมจากหน้าปัดหลัก (สไลด์ขอบหน้าจอฝั่งขวาจากเมนู) เพื่อเข้าถึง เป้าหมาย, พยากรณ์อากาศ, อัตราการเต้นของหัวใจ, ข้อมูลของสัปดาห์, พาดหัวข่าว, คะแนนคาร์ดิโอ, กำหนดการ ฯลฯ

ควบคุมเพลง

อีกหนึ่งฟังก์ชั่นที่คนใช้ Suunto รอคอย สามารถควบคุมเพลงแอพเพลงจากสมาร์ทโฟนอย่างเช่น JOOX, Spotify หรือ Apple Music ได้ผ่านหน้าปัดนาฬิกา ด้วยการแสดงผลชื่อเพลง ปุ่มเล่นเพลง และ ควบคุมระดับเสียง ส่วนการโอนถ่ายเพลงลง Suunto 7 และฟังเพลงผ่านหูฟังบลูทูธโดยไม่ต้องพกพาสมาร์ทโฟน ก็สามารถทำได้เช่นกันด้วยการดาวโหลดแอพฟังเพลงจาก Google Play บน Suunto 7 และ สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ เพื่อโอนถ่ายเพลงมาไว้บน Suunto 7

 

เมนูการใช้งาน

สำหรับแอพต่างๆที่โหลดมาจาก Google Play บน Suunto 7 จะอยู่ในเมนูรวม โดยเข้าไปเลือกใช้งานผ่านการกดปุ่มซ้ายบนเพียง 1 ครั้ง จากหน้าปัดหลัก 

แบตเตอรี่

เป็นอีกเรื่องสำคัญที่คนใช้งานต้องรู้ เพราะ Suunto 7 มีแบตเตอรี่ให้ใช้งานได้สูงสุดเพียง 2 วัน จึงเหมาะกับคนที่ชอบใช้งานคุณสมบัติสมาร์ทวอทช์ และ ติดตามการออกกำลังกายที่แม่นยำในช่วงที่ไม่ยาวนาน ดังนั้นจึงไม่แนะนำสำหรับสายออกกำลังกายโหดๆที่ใช้เวลาการติดตามการออกกำลังกายต่อเนื่องเป็นเวลายาวนาน

  • ประมาณ 18 ชั่วโมงในโหมดสมาร์ทวอทซ์
  • 4-12 ชั่วโมงในโหมดออกกำลังกาย GPS กลางแจ้ง
  • สูงสุด 8 ชั่วโมงในโหมดออกกำลังกาย GPS + ฟังเพลง
  • สูงสุด 7 ชั่วโมงในโหมดออกกำลังกาย GPS + แผนที่
  • สูงสุด 30 ชั่วโมงในโหมดออกกำลังกายในร่ม

โดยใช้เวลาชาร์จเพียง 20 นาที สามารถออกกำลังกายได้ 2 ชั่วโมง หรือ ชาร์จเต็ม 100% ภายใน 100 นาที

และสำหรับคนที่กลัวแบตเตอรี่หมด อยากเซฟแบตไว้แต่ยังอยากดูเวลาอยู่ Suunto 7 มีโหมดประหยัดพลังงานให้ใช้ ซึ่งจะปิดทุกๆคุณสมบัติ เพื่อให้นาฬิกาใช้งานได้ยาวนาน

 

ออกกำลังกายกับ Suunto 7

โหมดออกกำลังกาย

โดยเข้าเมนูจากหน้าปัดหลัก ด้วยการปุ่มขวาบนเพียง 1 ครั้ง Suunto 7 จะพาเข้าสู่ Suunto Sport Modes ที่เป็นไฮไลท์สำหรับการออกกำลังกายมากกว่าสมาร์ทวอทช์รุ่นอื่นๆ เข้าถึงมากกว่า 70 ชนิดกีฬาและฟังก์ชั่นต่างได้อีกมากมาย

  • โหมดกีฬาหลัก : วิ่ง/ ว่ายน้ำ / จักรยาน (แสดงข้อมูลแบบเฉพาะตามประเภทกีฬา)
  • โหมดกิจกรรม เช่น กีฬา, ออกกำลังกายฟิตเนส และ กิจกรรมผจญภัย (แสดงข้อมูลพื้นฐาน)

สำหรับการแสดงโหมดออกกำลังกาย Suunto 7 ได้ถูกปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยยิ่งขึ้น แต่ยังคงรักษาเอกลักษณ์เดิมอยู่ ทั้งการแสดงโซนชีพจรทั้ง 5 โซนในบริเวณขอบหน้าปัด, แผนที่สีเต็มรูปแบบ และ ข้อมูลต่างๆให้ได้ติดตามแบบ Real-Time

 

แผนที่

ครั้งแรกของ Suunto ที่รองรับการแสดงผลแผนที่สีได้เต็มรูปแบบ เหมือนเราดูแผนที่จาก Google Maps บน Suunto 7 โดยลักษณะแผนที่จะแสดงข้อมูลเส้นทางของถนน และ ซอย ได้อย่างครบถ้วน รวมไปถึงชื่อสถานที่สำคัญในแผนที่อีกด้วย

แผนที่บน Suunto 7 มีสิ่งที่พิเศษมากกว่าแผนที่ปกติ ด้วยรูปแบบแผนที่ Heatmaps ที่แบ่งออกตามประเภทกีฬา อย่างเช่น วิ่ง, จักรยาน, ว่ายน้ำ, ปืนเขา ฯลฯ เพื่อให้ผู้ใช้งานได้เห็นเส้นทางออกกำลังกายยอดนิยมจากผู้ใช้งาน Suunto ทั่วโลก และนำมาประยุกต์ในการออกกำลังกายของตัวเองได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องหาเส้นทางออกกกำลังกายใหม่

สำหรับการใช้งานแผนที่ร่วมกับการออกกำลังกาย นอกจากจะเห็นเส้นทางและสถานที่แล้ว ยังเห็นเส้นทางแกะรอยที่ได้เดินทางไป จากจุดเริ่มต้นไปจนถึงเส้นชัย

เมื่อออกกำลังกายบน Suunto 7 เสร็จสิ้น ก็ยังสามารถนำมาซิงค์กับ Suunto app บนสมาร์ทโฟนได้เช่นเดิมเหมือนนาฬิการุ่นอื่นๆจาก Suunto เพื่อดูข้อมูลเชิงลึก และ เก็บสิถิตไว้วัดผลได้ อีกทั้งยังแชร์ข้อมูลสู่โลกโซเชียล

 

วิธีเริ่มต้นใช้งาน Suunto 7

  • เริ่มต้นอยากให้โหลดแอพ Wear OS และ Suunto ติดตั้งรอไว้ที่สมาร์ทโฟนก่อน (รองรับทั้ง iOS / Android)
  • ชาร์จแบตเพื่อเปิดใช้งาน Suunto 7 
  • มาถึงขั้นตอนนี้ ผู้ใช้งานต้องมีบัญชี Google Gmail (ถ้าไม่มีสมัครได้ฟรี)
  • เริ่มเชื่อมต่อ Suunto 7 กับ Wear OS เป็นแอพแรกผ่านบลูทูธ (ทำตามขั้นตอน)
  • เมื่อ Suunto 7 พร้อมใช้งาน ให้กดปุ่มขวาบนเพื่อเข้าสู่หน้าออกกำลังกาย และเชื่อมต่อกับ Suunto app บนสมาร์ทโฟนเพื่อเก็บสถิติออกกำลังกาย

สรุปข้อดี/ข้อด้อย ของ Suunto 7

ข้อดี

  • Qualcomm Snapdragon Wear 3100 สเปคเรือธง เร็วแรง
  • หน้าจอ AMOLED แสดงสีสันจัดจ้าน คมชัดกว่ารุ่นอื่นๆ
  • Ecosystem ของระบบต่างๆ เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน
  • ใช้งานง่าย ด้วยการจัดวางเมนู และ ปุ่มกด แบบ User Friendly

ข้อด้อย

  • แบตเตอรี่ 450 mAh ไม่เพียงพอต่อการออกกำลังกายที่มีช่วงเวลายาวนาน
  • ไม่ได้เน้นการฝึกซ้อม โดยยังไม่มี interval Training 
  • ยังไม่รองรับฟังก์ชั่นติดตามการนอน (Sleep Tracking)

 

สรุปกับ Suunto 7 น่าซื้อไหม ?

สำหรับคนที่กำลังมองหา "สมาร์ทวอทช์" นำมาใช้งานกับคุณสมบัติแบบสมาร์ท ไม่ว่าจะเป็นการสั่งงานด้วยเสียงกับอุปกรณ์อัจฉริยะภายในบ้าน ที่เชื่อมต่อกับ Google Home เพื่อสั่งเปิด/ปิด ไฟ ควบคุมได้จากทุกที, สั่งงานด้วยเสียงเพื่อรับข้อมูลจากหน้าปัด หรือ อำนวยความสะดวกต่อการใช้ชีวิตจากแอพๆต่างบนสมาร์ทวอทช์ อย่างเช่น แผนที่ออฟไลน์, แปลภาษา, ตารางงาน, ปฏิทิน, แจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน และอีกมากมายที่มีให้ได้ใช้งานแบบไม่รู้จบ นอกจากนี้ยังไม่พอ คุณจะได้รับประสบการณ์การออกกำลังกายจาก Suunto ที่รับรองได้ว่าไม่มีในสมาร์ทวอทช์จากแบรนด์อื่นๆ ทั้งหมดนี้เพื่อตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้งสองรูปแบบอย่างลงตัว