รีวิว : สายคาดหน้าอกวัดชีพจร TSMACTIVE HRM เรียลไทม์ แม่นยำ 99%

การออกกำลังกายประเภทคาร์ดิโอ หรือ แอโรบิค มีความจำเป็นอย่างมากที่จะต้องรับรู้ระดับชีพจรขณะเทรน เนื่องจากทำให้การออกกำลังกายนั้นเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ คำนวนความหนัก-เบา ได้อย่างเที่ยงตรง ไม่ใช้ความรู้สึกกะเกณฑ์

อุปกรณ์วัดชีพจร วัดแคลอรี่ในปัจจุบันนั้นมีมากมายให้เลือกซื้อ ในขณะที่ ทีเอสเอ็ม ผู้นำเรื่องนาฬิกาออกกำลังกายและอุปกรณ์วัดชีพจร เข้าใจดีถึงความต้องการพื้นฐานของผู้ที่เพิ่งเริ่มออกกำลังกาย หรือ แม้แต่นักกีฬาระดับโปรฯ ที่ต้องการท้าทายความสามารถตัวเอง ก็ยังต้องมีสายคาดหน้าอกวัดชีพจรติดตัวไว้ ด้วยเหตุผลง่ายๆคือ มีความแม่นยำน่าเชื่อถือสูง และ วัดหัวใจแบบเรียลไทม์  

สายคาดหน้าอกวัดชีพจรในปัจจุบันมักจะเชื่อมต่อได้กับอุปกรณ์ของแบรนด์นั้นๆ ขึ้นอยู่กับการรองรับของสัญญานที่แตกต่างกัน ทางทีเอสเอ็มจึงได้นำเข้าสายคาดหน้าอกวัดชีพจรที่มีความน่าเชื่อถือ และรองรับสัญญานที่หลากหลาย และ “กล้า” ติดแบรนด์ TSMACTIVE เพื่อรับประกันคุณภาพสินค้า เพราะเราอยากให้เพื่อนๆได้ใช้ของดีในราคาย่อมเยาว์ แต่จะน่าเชื่อถือ และดีจริงไหม ลองอ่านรีวิวฉบับนี้กัน  

 

TSMACTIVE HRM เปรียบเทียบกับ Polar H7

Polar H7 นับว่าเป็นสายคาดหน้าอกที่มีความแม่นยำสูง ได้รับความนิยมตลอดกาล

รีวิว Polar H7 จาก Amazon

จากการทดสอบกราฟการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกาย ทั้ง Polar H7 และ สายคาดของ TSMACTIVE HRM ให้ผลลัพธ์ใกล้เคียงกันมาก

กราฟการเต้นของหัวใจจาก สายคาดหน้าอก Polar H7

กราฟการเต้นของหัวใจจาก สายคาดหน้าอก TSMACTIVE HRM

เชื่อมต่อ 2 ระบบ: Bluetooth และ ANT+

สายคาดวัดชีพจร TSMACTIVE HRM รองรับการเชื่อมต่อได้ถึง 2 รูปแบบ คือ Bluetooth smart ที่ใช้กับ iOS, Android และนาฬิกาหลากหลายแบรนด์ อีกทั้งยังรองรับสัญญาน ANT+ ที่พบในนาฬิกา Garmin ซะเป็นส่วนใหญ่ ทำให้ผู้ใช้สามารถปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ได้ตามความต้องการ ไม่มีกั๊กสัญญานเหมือนสายคาดวัดชีพจรที่ออกแบบมาเฉพาะของแบรนด์นั้นๆ

เชื่อมต่อ Polar Beat App

การเชื่อมต่อด้วยวิธีนี้ต้องใช้สัญญาน Bluetooth จากสมาร์ทโฟนในการเชื่อมต่อ โดยที่สายคาดอกที่ใช้งานต้องรองรับสัญญาน Bluetooth ซึ่งสายคาดหน้าอก TSMACTIVE HRM และ Polar H7 รองรับบลูทูธและใช้กับ 3rd party app ได้เช่นกัน

โหลดแอพพลิเคชั่น Polar Beat ที่มีทั้ง IOS และ Androidวิธีการเชื่อมต่อ

  1. เปิด Bluetooth ที่สมาร์ทโฟน
  2. สวมใส่สายคาด เพื่อพร้อมสำหรับการเชื่อมต่อ
  3. เข้าแอพพลิเคชั่น Polar Beat
  4. ทำการเชื่อมต่อในเมนู Setting
  5. กดเลือก HR Sensor
  6. รอการค้นหาสักครู่
  7. กด Pair เพื่อเชื่อมกับสายคาด
  8. พร้อมใช้งานออกกำลังกายได้ทันที

 

เชื่อมต่อ Garmin Forerunner 235

วิธีนี้นาฬิกา Garmin Forerunner 235 จะรองรับ ANT+ เท่านั้น จึงจำเป็นต้องใช้งานสายคาดอกที่ส่งสัญญาน ANT+ ซึ่งสามารถใช้สายคาด TSMACTIVE HRM หรือ Garmin Premium Sensor ได้เช่นกัน

*การเชื่อมต่อของนาฬิกา Garmin รุ่นอื่นๆใช้หลักการเดียวกัน และส่วนใหญ่รองรับเฉพาะสัญญาน ANT+ มีเพียงไม่กี่รุ่นที่รองรับทั้ง ANT+ และ Bluetooth smart

ต้องสวมใส่สายคาดอก เพื่อพร้อมาสำหรับการเชื่อมต่อวิธีการเชื่อมต่อ

  1. บนนาฬิกา กดปุ่มขวาบน และ กดปุ่มเลื่อนลงในเมนู Settings
  2. เข้าเมนู Sensor and Accessories (ตามรูป 1)
  3. เลือกเชื่อมต่อในเมนู  External Heart Rate (ตามรูป 2)
  4. รอการเชื่อมต่อ สักครู่
  5. พร้อมใช้งานออกกำลังกายได้ทันที

 

รับประกันยาวนาน

เทคโนโลยีสายคาดของ TSMACTIVE HRM ได้ผ่านการทดสอบแล้วว่ามีความน่าเชื่อถือและมีความคงทน อายุการใช้งานยาวนาน ทางทีเอสเอ็มจึงกล้ารับประกันสูงถึง 2 ปี หากสินค้ามีปัญหา ทางร้านเปลี่ยนให้ใหม่ทันที เปรียบเทียบสายคาดหน้าอกวัดชีพจรแบรนด์ดัง

 

สรุป

ในเวลานี้ ไม่มีนาฬิกาข้อมือวัดชีพจรตัวไหนที่แม่นยำแบบเรียลไทม์ และในอนาคตก็คงไม่มีเทคโนโลยีวัดชีพจรทางข้อมือ Wrist based HR ที่จะมีความแม่นยำถึง 99% อย่างแน่นอน เนื่องจากหลายๆปัจจัยรอบข้าง หากคุณเป็นคนที่เพิ่งเริ่มต้นออกกำลังกาย หรือ นักกีฬาที่ต้องการความแม่นยำสูงสุด สายคาดหน้าอกวัดชีพจร TSMACTIVE HRM อาจเป็นตัวเลือกที่ดีหนึ่งตัว เพราะ ทีเอสเอ็มได้พิสูจน์แล้วว่ามีความแม่นยำและเชื่อถือได้จริง แต่ถ้าคุณออกกำลังกายแบบไม่ได้ต้องการคำนวนระดับชีพจรแบบทันทีทันใด ยอมรับได้กับการดีเลย์ หรือใช้ระดับชีพจรและแคลอรี่เพื่อเป็นไอเดียในการออกกำลังกายทั่วไป การใช้สายคาดหน้าอกวัดชีพจรนั้น ยังถือว่าไม่จำเป็นสำหรับคุณ  

สั่งซื้อและดูราคา : TSMACTIVE Heart rate monitor (HRM) สายคาดหน้าอกวัดชีพจร Bluetooth & ANT+