เทคนิคการเลือกซื้อนาฬิกาออกกำลังกายยังไงให้คุ้มค่าที่สุด
นาฬิกาออกกำลังกายเริ่มมีบทบาทสำคัญในกลุ่มคนออกกำลังกายโดยสวมใส่กันอย่างแพร่หลาย ด้วยคุณสมบัติที่ตอบสนองการติดตามสุขภาพในด้านชีวิตประจำวันและกีฬาที่ครอบคลุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ
บทความนี้จะทำให้คุณมั่นว่าได้เลือกใช้งานนาฬิกาที่เหมาะสมกับตัวเองที่สุด เพื่อใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและตรงตามเป้าหมายในการพัฒนาสุขภาพโดยได้รับข้อมูลที่ครบถ้วนจากร่างกายตัวคุณเอง
ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจปัจจัยหลักในการเลือกใช้งานนาฬิกาออกกำลังกาย
1. เป้าหมายของการออกกำลังกายและกิจกรรม
เชื่อได้ว่าผู้ที่สนใจนาฬิกาออกกำลังกายต้องมีกีฬาที่ชอบอยู่ในใจอยู่แล้ว ซึ่งในนาฬิกาออกกำลังกายแต่ละรุ่นจะมีโหมดออกกำลังกายให้ได้เลือกใช้
จึงควรเลือกชนิดของกีฬาเป็นอันดับแรกในการเลือกตัดสินใจเพื่อนำไปใช้ถูกกับเป้าหมายและการใช้งานที่คุ้มค่า
ประเภทของของกิจกรรม/กีฬาหลักๆ มีดังนี้
1.1 ออกกำลังกายในฟิตเนส : วัดคุณสมบัติของร่างกายเพื่อพัฒนาตามเป้าหมาย
1.2 วัดระดับสุขภาพ : วัดผลสุขภาพเพื่อความเปลี่ยนแปลง
1.3 วิ่งหรือปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ : ประเมินคุณภาพเพื่อการพัฒนาของร่างกาย
1.4 วิ่งเทรล / วิ่งมาราธอน / ปั่นจักรยาน : เพิ่มประสิทธิการติดตามที่ละเอียด
1.6 ว่ายน้ำ : โหมดที่ติดตามเฉพาะด้านเพื่อวัดผล
1.7 ไตรกีฬา : รองรับโหมด วิ่ง,ปั่นจักรยาน,ว่ายน้ำ เข้าด้วยกัน
2. ประเภทและลักษณะการใช้งานของนาฬิกาออกกำลังกาย
ค่าชีพจรกลายเป็นหนึ่งคุณสมบัติที่คนออกกำลังกายต้องการใช้งานเพื่อวัดระดับความเหนื่อยล้า ที่แสดงผลให้รู้ได้ทันทีขณะออกกำลังกาย
การวัดอัตราการเต้นของใจจากนาฬิกายออกกำลังกายแบ่งเป็น 2 ประเภทดังนี้
✔ นาฬิกาออกกำลังกายที่วัดชีพจรจากข้อมือโดยตรง
เทคโนโลยีที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่คนใช้นาฬิกาออกกำลังกายสำหรับการติดตามชีพจรได้สะดวก
และได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับผู้ใช้งานได้ข้อมูลที่เที่ยงตรงที่สุด
ซึ่งในขณะนี้เซนเซอร์วัดชีพจรเริ่มมีความเสถียรใกล้เคียงกับสายคาดอกยิ่งขึ้นทุกวัน
ข้อดี
- สะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันและการออกกำลังกาย
 - เป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ได้รับการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อความแม่นยำ
 
ข้อเสีย
- วัดชีพจรในน้ำยังไม่เสถียรเท่าที่ควร
 - ใช้พลังงานแบตเตอรี่ที่มากกว่า
 

✔ นาฬิกาออกกำลังกายที่ต้องใช้สายคาดอกเพื่อวัดชีพจร
เป็นนาฬิกาออกกำลังกายที่ต้องใช้ควบคู่กับสายคาดอกในการส่งสัญานชีพจร ซึ่งในปัจจุบันยังได้รับความนิยมอยู่พอสมควรในหมู่นักกีฬา
ข้อดี
- การส่งสัญญานมีคามคลาดเคลื่อนน้อยกว่าเซนเซอร์ในนาฬิกาออกกำลังกาย
 - สามารถวัดชีพจรในน้ำได้แม่นยำ
 
ข้อเสีย
- ไม่สามารถใส่ได้ต่อเนื่องในชีวิตประจำวัน
 - การเลื่อนของสายในขณะออกกำลังกาย
 - สายคาดอกไม่รองรับกับนาฬิกาออกกำลังกายบางรุ่น
 
3. ลักษณะการทำงานของนาฬิกาออกกำลังกายเพื่อประโยชน์ของการใช้งานสูงสุด
ลักษณะการทำงานของนาฬิกาออกกำลังกาย
การติดตามกิจกรรมทั่วไปของนาฬิกาออกกำลังกาย จะเริ่มต้นนับใหม่ในทุกๆเที่ยงคืนเพื่อเริ่มต้นติดตามในวันใหม่ ในระหว่างวันนาฬิกาออกกำลังกายจะคอยติดตามการเคลื่อนไหวอยู่ตลอด
โดยข้อมูลเหล่านั่นจะถูกบันทึกลงนาฬิกาก่อนและโอนถ่ายมาบันทึกในสมาร์ทโฟนผ่านแอพพลิเคชั่นจากแบรนด์นั่นๆ เพื่อดูข้อมูลย้อนหลังที่ละเอียดพร้อมนำมาพัฒนาได้ง่าย
ข้อมูลทั่วไปที่แสดงผลมีอะไรบ้าง ?
- จำนวนก้าวเดิน : ติดตามการเคลื่อนไหวของร่างกายในชีวิตประจำวันหรือกิจกรรมโดยติดตามแบบอัตโนมัติ
 - จำนวนแคลอรี่ : อ้างอิงจากผู้สวมใส่ อายุ / เพศ / ส่วนสูง-น้ำหนัก และการเคลื่อนไหว มาคำนวณเป็นแคลอรี่
 - ค่าชีพจร : วัดระดับค่าชีพจรหรืออัตราเต้นของหัวใจเพื่อรู้ถึงความหนักเบาของร่างกาย
 - ติดตามการนอนหลับ : ตรวจจับการเคลื่อนไหวเชิงลึก รู้ถึงเวลานอนหลับ , เวลาหลับสนิท , เวลาตื่น โดยแสดงอย่างละเอียดในแอพพลิเคชั่น
 - โหมดออกกำลังกาย : ติดตามการออกกำลังกาย/กีฬา บันทึกผลแยกจากการติดตามกิจกรรมประจำวัน โดยตัวเราเองเป็นคนกำหนดในการเริ่มต้นบันทึก
 

4. ข้อมูลที่ควรได้รับจากนาฬิกาออกกำลังกาย
การแสดงผลข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญแต่ไม่จำเป็นที่เราต้องการเลือกนาฬิกาออกกำลังกายที่ให้ข้อมูลทั้งหมดที่เกินความเป็นจำเป็น
ดังนั้นเราควรรู้ถึงข้อมูลที่จำเป็นกับตัวเราเพื่อให้เหมาะกับประเภทกีฬา
4.1 แสดงการเผาผาญของร่างกายหน่วยวัดเป็นกิโลแคลอรี่
4.2 แสดงข้อมูลก้าวเดิน / ระยะทางเดิน / จำนวนขึ้นชั้นบันได
4.3 แสดงค่าอัตราการเต้นของหัวใจ
4.4 โหมดออกกำลังกายตรงตามประเภทกีฬา
4.5 ติดตามเส้นทางการออกกำลังกายเพื่อบันทึกตำแหน่งสำหรับดูเส้นทางย้อนหลัง (GPS)
4.6 แสดงเวลาและคุณภาพการนอนหลับ
 
5. ฟังก์ชั่นเสริมที่ควรมี
- การแจ้งเตือน : ระบบการแจ้งเตือนของจากสมาร์ทโฟนที่ต้องอาศัยการเชื่อมต่อบลูทูธกับสมาร์ทโฟน เพื่อไม่พลาดการติดต่อขณะออกกำลังกาย
 - การเชื่อมต่อ : สำหรับการวัดผลประเภทอื่นๆที่ต้องใช้อุปกรณ์โดยเฉพาะ อุปกรณ์เหล่านั้นมี 2 ระบบ ANT + และ Bluetooth ซึ่งขึ้นอยู่กับแบรนด์นั่นๆเป็นผู้กำหนด
 - การควบคุม : การควมคุมเพลงจากนาฬิกาออกกำลังกายกับสมาร์ทโฟน หรือ การบันทึกเพลงลงนาฬิกาออกกำลังกาย ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นที่เริ่มมีให้ใช้กันแล้ว
 

6. ประโยชน์จากการใช้งาน
- กระตุ้นเสริมเรงจูงใจของการออกกำลังกายโดยได้ข้อมูลที่แท้จริง
 - รู้ถึงความหนัก-เบาของการออกกำลังกาย อ้างอิงจากสถิติโดยบุคคลที่ส่วมใส่
 - ติดตามข้อมูลพร้อมสถิติได้ย้อนหลังเพื่อเปรียบเทียบและนำไปพัฒนา
 - วัดคุณภาพสุขภาพ ช่วยเพิ่มขีดกำจัดของร่างกายและเสริมสร้างสุขภาพที่ดี
 
จำแนกตามประเภทกีฬา/กิจกรรม พร้อมคำแนะนำที่เหมาะสม
เมื่อเข้าใจถึงการทำงานของนาฬิกาออกกำลังกายแล้ว ขั้นตอนสำคัญที่สุดต้องรู้ถึงข้อมูลและประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้งานร่วมกับกีฬาด้วย
1. นาฬิกาออกกำลังกายสำหรับออกกำลังในฟิตเนส
ลักษณะของนาฬิกาออกกำลังกายที่คุ้มค่า
✔  ควรมีเซนเซอร์วัดชีพจรในตัวเรือนเพิ่มความสะดวกในการสวมใส่
✔  ไม่จำเป็นต้องใช้รุ่นที่มี GPS ในการติดตามเส้นทางใน Indoor
✔  ควรมีโหมดกีฬา Indoor รองรับอุปกรณ์ฟิตเนส ลู่วิ่ง / จักรยานไฟฟ้า
ข้อมูลที่ควรได้รับจากนาฬิกาออกกำลังกาย
✔  การคำนวญแคลอรี่ที่เผาผาญ
✔  ค่าชีพจรที่แสดงผลแบบ Real-Time
✔  วิเคราะห์การนอนหลับ
ประโยชน์จากการใช้งาน
✔  วัดผลการออกกำลังกาย
✔  รู้ถึงความหนักเบาของการใช้พลังงาน
✔  ติดตามการเผาผาญแคลอรี่อย่างต่อเนื่อง
2. นาฬิกาออกกำลังกายสำหรับวัดระดับสุขภาพ
ลักษณะของนาฬิกาออกกำลังกายที่คุ้มค่า
✔  ควรมีการติดตาม นับก้าว , ติดตามแคลอรี่ , วัดคุณภาพการนอนหลับ
✔  ควรมีเซนเซอร์วัดชีพจร (ถ้าต้องการใช้ร่วมกับกีฬา)
✔  หรือไม่ควรมีเซนเซอร์วัดชีพจร (ถ้าใช้ในชีวิตประจำวันเท่านั้น)
✔  ไม่จำเป็นต้องใช้รุ่นที่มี GPS ในการติดตามเส้นทาง
ข้อมูลที่ควรได้รับจากนาฬิกาออกกำลังกาย
✔  การสรุปผลกิจกรรมประจำวัน
✔  การคำนวญแคลอรี่ที่เผาผาญ
✔  วิเคราะห์การนอนหลับ
ประโยชน์จากการใช้งาน
✔  รู้ถึงความหนักเบาของการใช้พลังงาน
✔  วัดคุณภาพการทำงานของร่างกายได้ต่อเนื่อง
✔  ติดตามการเผาผาญแคลอรี่อย่างต่อเนื่อง
3. นาฬิกาออกกำลังกายสำหรับวิ่งหรือปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพ
ลักษณะของนาฬิกาออกกำลังกายที่คุ้มค่า
✔  ควรมีเซนเซอร์วัดชีพจรเพื่อการติดตามวิเคราะห์ที่แม่นยำ
✔  ควรมีการติดตาม นับก้าว , ติดตามแคลอรี่ , วัดคุณภาพการนอนหลับ
✔  ควรมี GPS ในการติดตามเส้นทางและวัดระยะความเร็ว
ข้อมูลที่ควรได้รับจากนาฬิกาออกกำลังกาย
✔  การคำนวณความเร็ว , ระยะทาง , ระยะเวลา
✔  การสรุปของการออกกำลังกายที่แสดงอย่างละเอียด
ประโยชน์จากการใช้งาน
✔  รู้ถึงความหนักเบาของการใช้พลังงาน
✔  วัดคุณภาพการทำงานของร่างกายได้ต่อเนื่อง
✔  การติดตามการเผาผาญแคลอรี่ที่ร่างกายเผาผาญ

4. นาฬิกาออกกำลังกายสำหรับวิ่งเทรล / วิ่งมาราธอน / ปั่นจักรยาน
ลักษณะของนาฬิกาออกกำลังกายที่คุ้มค่า
✔  ควรมีเซนเซอร์วัดชีพจรในตัวเรือนเพิ่มความสะดวกในการสวมใส่
✔  ถ้าต้องการความแม่นยำในติดตามชีพจรอย่างต่อเนื่อง (ควรใช้สายคาดอกวัดชีพจร)
✔  ควรมี GPS ในการติดตามเส้นทางและวัดระยะความเร็ว
✔  ควรมีฟังก์ชั่นและโหมดกีฬา Outdoor รองรับ เช่น เข็มทิศ , วัดอุณหภูมิ
✔  ควรมีฟังก์ชั่น Navigation สำหรับตั้งโปรแกรมฝึกด้วยเส้นทางและการนำทางสำหรับวิ่งเทรลที่มีเส้นทางซับซ้อน
ข้อมูลที่ควรได้รับจากนาฬิกาออกกำลังกาย
✔ การคำนวณความเร็ว , ระยะทาง , ระยะเวลา, อัตราเฉลี่ยที่ละเอียด
✔ การแสดงผลเส้นทางตามโปรแกรม
✔ การสรุปของการออกกำลังกายที่แสดงอย่างละเอียด
✔ การวิเคราะห์ช่วงเวลาที่ควรพัก
ประโยชน์จากการใช้งาน
✔ วัดผลการออกกำลังกายเพื่อการพัฒนาเกิดขีดจำกัด
✔ รู้ถึงความหนักเบาของการใช้พลังงาน
✔ การวิเคราะห์และสรุปผลที่ลงลึกรู้ถึงความสามารถของร่างกาย
✔ ได้รับข้อมูลเส้นทางที่มีประสิทธิภาพตรงตามโปรแกรมที่กำหนดไว้
5. นาฬิกาออกกำลังกายสำหรับว่ายน้ำ
ลักษณะของนาฬิกาออกกำลังกายที่คุ้มค่า
✔  ถ้าต้องการแม่นยำในการส่งสัญญานค่าชีพจร (ควรใช้คู่กับสายคาดอก) 
✔  มีหรือไม่เซนเซอร์วัดชีพจรก็ได้ (ถ้าต้องการใช้เล่นกีฬาอื่น)
✔  ควรมีค่ามาตรฐานกันน้ำตั้งแต่ 50 เมตรขึ้นไป
✔  ควรมีโหมดว่ายน้ำโดยเฉพาะ
ข้อมูลที่ควรได้รับจากนาฬิกาออกกำลังกาย
✔  การคำนวณขนาดของสระเพื่อคำนวณรอบ , การวัด Stroke , บอกรูปแบบการ Stroke , การจับเวลาการฝึกซ้อม
✔  การแสดงผลเส้นทางตามโปรแกรม
✔  การวิเคราะห์ช่วงเวลาที่ควรพัก
ประโยชน์จากการใช้งาน
✔  วัดประสิทธิภาพการว่ายน้ำได้จริง 
✔  ได้ข้อมูลที่เฉพาะทางเพื่อการพัฒนาการฝึกซ้อม
✔  พัฒนาประสิทธิภาพและเพิ่มขีดจำกัดของการว่าน้ำ
6. นาฬิกาออกกำลังกายสำหรับไตรกีฬา (วิ่ง/ปั่นจักรยาน/ว่ายน้ำ)
ลักษณะของนาฬิกาออกกำลังกายที่คุ้มค่า
✔  ควรมีโหมดการสลับประเภทกีฬารองรับ เพื่อการใช้งานที่ต่อเนื่อง
✔  ควรมีค่ามาตรฐานกันน้ำตั้งแต่ 50 เมตรขึ้นไป
✔  ควรมีเซนเซอร์วัดชีพจรในตัวเรือนเพิ่มความสะดวกในการสวมใส่
✔  ถ้าต้องการความแม่นยำในติดตามชีพจรอย่างต่อเนื่องและสำหรับว่ายน้ำ (ควรใช้สายคาดอกวัดชีพจร)
✔  ควร GPS ในการติดตามเส้นทางและวัดระยะความเร็ว
✔  ควรมีฟังก์ชั่นและโหมดกีฬา Outdoor รองรับ เช่น เข็มทิศ , วัดอุณหภูมิ
✔  ควรมีฟังกชั่นการติดตามผลของร่างกายและสรีระ เช่น VO2MAX (เช็คความฟิตของร่างกาย) 
✔  ควรมีฟังก์ชั่น Navigation สำหรับตั้งโปรแกรมเส้นทางและการนำทางสำหรับวิ่งเทรลที่มีเส้นทางซับซ้อน
ข้อมูลที่ควรได้รับจากนาฬิกาออกกำลังกาย
✔  การคำนวณความเร็ว , ระยะทาง , ระยะเวลา, อัตราเฉลี่ยที่ละเอียด
✔  การติดตามและบันทึกเส้นทางผ่าน GPS 
✔  การแสดงผลเส้นทางตามโปรแกรม
✔  การวิเคราะห์ช่วงเวลาที่ควรพัก
ประโยชน์จากการใช้งาน
✔  ติดตามกีฬา 3 ประเภทได้ต่อเนื่องไม่ขาดตอนกับการออกกำลังกายแบบไตรกีฬา
✔  วัดผลการออกกำลังกายเพื่อการพัฒนาเกิดขีดจำกัด
✔  รู้ถึงความหนักเบาของการใช้พลังงาน
✔  การวิเคราะห์และสรุปผลที่ลงลึกรู้ถึงความสามารถของร่างกาย
✔  ได้รับข้อมูลเส้นทางที่มีประสิทธิภาพตรงตามโปรแกรมที่กำหนดไว้
จบไปแล้วกับการแนะนำวิธีเลือกใช้นาฬิกาออกกำลังกายเพื่อตรงตามเป้าหมายสำหรับเป็นแนวทางเริ่มต้นสำหรับ
ผู้ที่กำลังมองหานาฬิกาที่ทำหน้าที่แทนตัวเราเองช่วยติดตามและวิเคราะห์สุขภาพของร่างกายที่ใกล้ชิดที่สุด
ทาง Tsmactive ได้มองเห็นความสำคัญต่อผู้ใช้งานเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่ดีสุดพร้อมทั้งสามารถรับคำแนะนำจากเราได้
นึกถึงนาฬิกาออกกำลังกายครบที่สุดต้อง Tsmactive.com พร้อมคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่ช่วยทำให้คุณเข้าใจยิ่งขึ้น